นาโตจำเป็นต้องรับมือกับการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากในแนวหน้า หากไม่ได้เตรียมพร้อมด้านศักยภาพในการลำเลียงทางอากาศกำลังพลเหล่านี้ไปรักษา ในกรณีที่เปิดศึกสงครามครั้งใหญ่กับรัสเซีย จากคำกล่าวของหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ของพันธมิตรทหารกลุ่มนี้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์
พล.ท.อเล็กซานเดอร์ ซอลล์แฟรงค์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการร่วมสนับสนุนและส่งเสริม (JSEC) ของนาโต พูดคร่าวๆ เกี่ยวกับความยุ่งยากที่กำลังพลอาจต้องเผชิญ หากเปิดศึกสงครามกับรัสเซีย ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพุธ (25 ก.ย.)
"ความท้าทายคือจำต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อรับประกันการรักษาที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะในกรณีเลวร้าย มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก" ซอลล์แฟรงค์ กล่าว
เขากล่าวต่อว่า สมมติฐานกรณีแวดล้อมในความขัดแย้งกับรัสเซีย จะต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจากสิ่งที่สหรัฐฯ และพันธมิตรเผชิญในอัฟกานิสถานและอิรัก โดยมันจะไม่เหมือนกับการก่อความไม่สงบในตะวันออกกลาง เพราะรัสเซียมีแสนยานุภาพทางทหารที่สามารถคุกคามเครื่องบินของนาโต ซอลล์แฟรงค์เน้นย้ำ พร้อมคาดการณ์ว่าปฏิบัติการอพยพทางการแพทย์ใดๆ อาจจำเป็นต้องดำเนินการในทางภาคพื้น
"ทุกทางเลือกในการลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากไปยังสถาบันทางการแพทย์ จำเป็นต้องได้รับการพิจารณา ในนั้นรวมถึงทางรถไฟ แต่ก็รวมถึงรถบัสด้วยเช่นกัน" เจ้าหน้าที่นาโตรายนี้กล่าว
อ้างอิงจากรายงานของซีเอ็นเอ็นเมื่อช่วงกลางเดือน พบว่าปัจจุบันยูเครนใช้รถไฟที่ดัดแปลงเป็นสถานพยาบาล ในการลำเลียงกำลังพลจากแนวหน้า ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่าผู้บัญชาการด้านโลจิสติกส์ของนาโต ในเมืองอูล์มของเยอรมนี เมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดการฝึกซ้อมบนพื้นฐานของปฏิบัติการประสานงานอพยพทางการแพทย์
ซอลล์แฟรงค์ บอกว่าแผนฉุกเฉินของ JSEC จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางกฎหมายในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นการเร่งรัดลำเลียงสารที่ใช้บรรเทาอาการปวดทั้งหลายข้ามชายแดนของแต่ละชาติ เขายังเรียกร้องให้จัดตั้ง "เชงเก้นด้านการแพทย์ทหาร" แบบเดียวกับที่ทางกลุ่มนาโตต้องการให้มี "เชงเก้นด้านการทหาร" เพื่อที่จะสามารถประจำการกำลังพลและอาวุธไปยังปีกตะวันออกของนาโตได้อย่างรวดเร็ว
สหรัฐฯ และพันธมิตรอ้างว่าบางทีรัสเซียอาจกำลังวางแผนโจมตีรัฐสมาชิกนาโต ทั้งนี้เพื่อเตะถ่วงหรือขัดขวางแผนการดังกล่าว ทางตะวันตกจึงป้อนอาวุธแก่ยูเครน อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าหนึ่งในเหตุผลที่รัสเซียใช้กล่าวอ้างรุกรานยูเครน คือความเคลื่อนไหวของพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ที่แผ่ขยายอาณาเขตในยุโรปมานานกว่าทศวรรษ ซึ่งถือเป็นการละเมิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับมอสโก
(ที่มา : รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์)