ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตือนในวันพุธ (25 ก.ย.) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของ "สงครามเต็มรูปแบบ" ในตะวันออกกลาง แต่แสดงความหวังว่าภูมิภาคที่ถูกฉีกขาดจากความขัดแย้งแห่งนี้ จะยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายในการหาทางออกจากวิกฤต
ความเห็นของไบเดน ระหว่างไปปรากฏตัวในรายงาน "เดอะวิว" ของสำนักข่าวเอบีซี มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลแจ้งให้กำลังพลอยู่ในภาวะเตรียมพร้อม สำหรับความเป็นไปได้ที่จะบุกเข้าไปยังเลบานอน และมีขึ้นท่ามกลางสงครามอันยืดเยื้อในฉนวนกาซา
"สงครามเต็มรูปแบบมีความเป็นไปได้" ไบเดนกล่าว เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ "อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมคิดคือ ยังมีโอกาสสำหรับการมีทางออกหนึ่งๆ ที่สามารถก่อการเปลี่ยนแปลงทางพื้นฐานทั่วภูมิภาค"
ไบเดน หยิบยกความเป็นไปได้ของข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งในเลบานอน ดินแดนที่อิสราเอลโจมตีถล่มเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ สังหารไปกว่า 600 รายในสัปดาห์นี้ "มีความเป็นไปได้ ผมไม่อยากพูดเกินจริง มันมีความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถตกลงข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งในเลบานอน ที่สามารถเคลื่อนเข้าสู่การเจรจาต่อรองข้อตกลงในเวสต์เบงก์เช่นกัน"
อิสราเอลปฏิบัติการจู่โจมนองเลือดในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ มาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม เล็งเป้าเล่นงานสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นพวกนักรบปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม ไบเดน บอกด้วยว่า "เรามีกาซาให้จัดการเช่นกัน" หลังจากความพยายามต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงหยุดยิง ยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา ต้องหยุดชะงักไป
"มันยังมีความเป็นไปได้ และผมกำลังใช้พลังงานทั้งหมดร่วมกับคณะทำงานของผม ทำให้มันบรรลุเป้าหมาย มีความปรารถนาที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค" เขากล่าว
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ ยังกดดัน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้ละทิ้งจุดยืน คัดค้านการเป็นเอกราชของรัฐปาเลสไตน์ เพื่อยุติวิกฤต "ผมไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของเขา (เนทันยาฮู) มีความจำเป็นต้องเป็นทางออกแบบ 2 รัฐคู่ขนาน" ไบเดนระบุ
(ที่มา : เอเอฟพี)