เซเลนสกีชี้สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียไม่อาจสงบลงได้ด้วยการเจรจาเท่านั้น แต่มอสโกต้องถูกบังคับด้วยกฎบัตรยูเอ็นให้ยอมทำข้อตกลงสันติภาพ ด้านเครมลินตอกกลับว่า แผนการดังกล่าวเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ และจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรงสำหรับเคียฟ
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) ว่า สงครามจะจบลงในวันหนึ่งแต่ไม่ใช่เพราะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเหนื่อยหน่ายที่จะสู้รบ หรือจากการยอมแลกเปลี่ยนกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งพาดพิงถึงข้อเสนอที่ว่า เคียฟต้องยอมยกดินแดนบางส่วนให้มอสโกเพื่อแลกกับการยุติความขัดแย้ง
เซเลนสกีเสริมว่า สงครามไม่อาจสงบลงได้ด้วยการเจรจา แต่ต้องเป็นการกระทำ พร้อมขอบคุณประเทศต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนยูเครน ก่อนสำทับว่า ปูตินละเมิดบรรทัดฐานและกฎสากลมากมายจนไม่อาจหยุดตัวเองได้ มีทางเดียวเท่านั้นคือการบีบให้รัสเซียยอมรับข้อตกลงสันติภาพ ในฐานะที่เป็นผู้รุกรานในสงครามนี้ และผู้ละเมิดกฎบัตรรยูเอ็น
เป้าหมายในการวิจารณ์ของเซเลนสกีคือ เกาหลีเหนือและอิหร่านที่จัดหาอาวุธให้รัสเซีย จึงถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทางพฤตินัยของมอสโก
ขณะนี้อนาคตของยูเครนไร้ความแน่นอน เนื่องจากหากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย. อาจเป็นการรีเซ็ตนโยบายของอเมริกาต่อยูเครนที่พึ่งพิงการสนับสนุนทางทหารและการเงินจากวอชิงตันอย่างมาก โดยโพลล่าสุดบ่งชี้ว่า การแข่งขันสูสีมาก
อย่างไรก็ดี เซเลนสกีคาดหวังว่า หาก “แผนแห่งชัยชนะ” ที่เขาเตรียมเสนอต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน และผู้นำตะวันตกได้รับการสนับสนุน จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อมอสโก ซึ่งรวมถึงผลกระทบด้านจิตวิทยาที่อาจบีบให้ปูตินยอมยุติสงครามด้วยแนวทางทางการทูต
วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ตอบโต้ในที่ประชุมเดียวกันว่า ชาติตะวันตกยังคงไม่สามารถยับยั้งการทำลายบรรยากาศการประชุมด้วยการพยายามใช้เวลาให้หมดไปด้วยประเด็นยูเอ็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
ขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประสานเสียงกับยูเครน โดยกล่าวโจมตีว่า ไม่ใช่เกาหลีเหนือและอิหร่านเท่านั้นที่ช่วยเหลือรัสเซีย แต่จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง คือผู้จัดหาหลักสำหรับเครื่องจักรกล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ที่รัสเซียใช้ในการเร่งผลิตและสำรองอาวุธยุทโธปกรณ์เพิ่ม และคงการรุกรานโหดร้ายต่อไป
ด้านหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน โต้ว่า ความพยายามในการผลักความรับผิดชอบ โจมตี และป้ายสีจีนเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบและไม่ก่อเกิดประโยชน์แต่อย่างใด
ต่อมา ในวันพุธ (25 ก.ย.) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ได้ตอบโต้แผนการของเซเลนสกีที่เสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นว่า เป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงซึ่งจะส่งผลลัพธ์ร้ายแรงต่อยูเครน พร้อมสำทับว่าว่า รัสเซียต้องการสันติภาพ แต่ไม่ใช่ด้วยการบังคับ
ทั้งนี้ ในระยะเวลากว่า 2 ปีครึ่งนับจากที่ยกทัพบุกยูเครน รัสเซียยึดครองดินแดนราว 20% ในยูเครน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ 80% ในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมในยูเครนตะวันออก ที่ประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แดนหมีขารุกคืบในแนวรบด้านตะวันออกด้วยความรวดเร็วที่สุด ถึงแม้เคียฟพยายามแก้เกม ด้วยการย้อนศรบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียก็ตาม
ล่เมื่อวันอังคาร ยูริ โปโพลยากา บล็อกเกอร์สายทหารสัญชาติยูเครนแต่โปรรัสเซีย ยืนยันว่า กองกำลังรัสเซียบุกตะลุยเข้าสู่เมืองวูห์เลดาร์ ที่อยู่ในแคว้นโดเนตสก์ และอยู่ห่างจากเมืองโปครอฟสก์ ซึ่งเป็นฮับโลจิสติกส์สำคัญด้านตะวันออกของยูเครน ราว 80 กม.
เมืองวูห์เลดาร์เป็นที่มั่นของยูเครนที่สามารถต้านทานการโจมตีของรัสเซียมาตั้งแต่ช่วงต้นของสงครามเมื่อปี 2022
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทัพรัสเซียเอาชนะทหารยูเครนในชุมชนต่างๆ ซึ่งรวมถึงวูห์เลดาร์
ขณะที่กองเสนาธิการกองทัพบกยูเครนรายงานเมื่อคืนวันอังคารว่า กองทัพรัสเซียโจมตี 8 ระลอกทั่ววูห์เลดาร์ และหมู่บ้านใกล้เคียง 2 แห่ง และดีป สเตท ซึ่งเป็นหน่วยวิเคราะห์ข่าวกรองแบบโอเพนซอร์สของยูเครน โพสต์บนเทเลแกรมว่า กองกำลังรัสเซียพยายามล้อมวูห์เลดาร์ และระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่รวมทั้งลูกระเบิดติดระบบนำวิถี
(ที่มา : รอยเตอร์)