ชายชาวจีนคนหนึ่งที่พำนักอยู่ในมาเลเซีย เห็นประกาศบนอินเือร์เน็ต เป็นภาพเศรษฐินีสาวสวยชาวสิงคโปร์ เสนอเงิน 1 ล้านริงกิต (ราว 7.9 ล้านบาท) เพื่อมีลูก เจ้าตัวรุดแสดงความประสงค์ในทันที แต่กว่าจะรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อของพวกตุ้มตุ๋นก็สูญเงินไปแล้วกว่า 24,000 ริงกิต (ราว 1.9 แสนบาท)
รายงานจากสื่อมวลชนท้องถิ่นมาเลเซีย ระบุว่า ดาโต๊ะเสรี จาง เทียนซี ผู้อำนวยการสำนักรับเรื่องร้องเรียนสาธารณะแห่งประเทศมาเลเซีย จัดแถลงข่าวพร้อมด้วยชายชาวจีนวัย 49 ปี แซ่หลี่ เมื่อวันอังคาร (24 ก.ย.) เพื่อแฉเรื่องราวการตกเป็นเหยื่อ โดย หลี่ บอกว่าเขาเห็นโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงต้นเดือน ว่ามีผู้หญิงร่ำรวยคนหนึ่งต้องการยืมสเปิร์มเพื่อมีลูก แต่ด้วยที่เขาเป็นพ่อเลี้ยงเดึ่ยวและต้องการเงิน เขาจึงสมัครใจยื่นใบสมัคร
ต่อมา เขาได้รับการติดต่อจากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อ "เฉิน ฮุยรู" อายุ 34 ปี และแต่งงานกับเศรษฐีนักธุรกิจชาวสิงคโปร์รายหนึ่ง และตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในสิงคโปร์ เธออ้างว่ากำลังหาทาง "ยืมอสุจิ" พร้อมบอกด้วยว่าทั้ง 2 ฝ่ายจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์กันจนกว่าเธอจะตั้งครรภ์ จากนั้นเธอจะให้เงิน 1 ล้านริงกิต
หลี่ เผยว่าเขาเห็นภาพความสวยของเฉินผ่านทางแอปพลิเคชัน WhatsApp และหลังจากได้คุยโทรศัพท์กับเธอ เขารู้ทันทีว่าได้ตกหลุมรักฝ่ายหญิงเข้าให้แล้ว อย่างไรก็ตาม ครั้งที่ หลี่ อยากวิดีโอคอลกับ เฉิน ทางฝ่ายหญิงมักปฏิเสธ อ้างว่า "ยุ่งมากๆ" และทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยเห็นหรือเจอหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว
ต่อมา มีบุคคลหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นทนายของเฉิน ติดต่อมายัง หลี่ แจ้งเขาจำเป็นต้องลงนามในข้อตกลงรักษาความลับเป็นเวลา 20 ปี และบอกให้เขาชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างเช่นค่าความจริงใจและค่าบริหารจัดการ รวมถึงภาษีในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ เพื่อที่จะได้รับเงินล่วงหน้า 300,000 ริงกิต (ราว 2.3 ล้านบาท)
หลังจากถูกหลอกให้โอนเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราว 24,000 ริกกิต ในที่สุด หลี่ ก็เริ่มได้สติ และติดต่อขอคำแนะนำจากผู้อำนวยการสำนักรับเรื่องร้องเรียนสาธารณะ และพบว่าหญิงที่อ้างตัวเป็นเศรษฐินีแซ่ "เฉิน" และทนายความนายหน้าของเธอ ล้วนแต่เป็นมิจฉาชีพ และกระทั่งรูปของ "เฉิน ฮุยรู" ก็เป็นภาพของผู้หญิงคนอื่นที่แก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ขโมยมาจากอินเทอร์เน็ต
ผู้อำนวยการสำนักรับเรื่องร้องเรียนสาธารณะ เปิดเผยว่าเขาได้ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของสมาคมทนายความมาเลเซีย พบว่ามีบริษัทกฎหมายตามที่ทนายความปลอมอ้างอยู่จริง อย่างไรก็ตาม หลังจากติดต่อไปยังบริษัทกฎหมายดังกล่าว จึงทราบว่าคนร้ายเพียงแอบอ้างใช้ชื่อของบริษัทหลอกเหยื่อเท่านั้น ทางบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ
(ที่มา : ctwant)