โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ระบุเมื่อวันจันทร์ (23 ก.ย.) ว่า ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนคาดหวังอยู่ลึกๆ ให้ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต เป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ถ้อยแถลงดังกล่าวของ ทรัมป์ ฟังดูขัดแย้งกับคำพูดของพันธมิตรบางคนที่อ้างว่า ยูเครนอยากเห็น ทรัมป์ ได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ มากกว่า เนื่องจาก ทรัมป์ เป็นคนเดียวที่พอจะมีอำนาจต่อรองให้ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียยอมยุติสงครามได้
“ผมว่า เซเลนสกี คือเซลส์แมนที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ ทุกครั้งที่เขามาสหรัฐฯ เขาจะกลับไปพร้อมกับเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์” ทรัมป์ เอ่ยบนเวทีปราศรัยทางตะวันตกของรัฐเพนซิลเวเนีย
“เขาอยากให้พวกเขา (เดโมแครต) ชนะเลือกตั้งใจจะขาด แต่ผมจะทำในสิ่งที่แตกต่างออกไป ผมจะทำให้เกิดสันติภาพ”
ทั้ง เซเลนสกี และทีมหาเสียงของ แฮร์ริส ยังไม่ออกมาตอบโต้คำพูดของทรัมป์ ในขณะที่ตัว ทรัมป์ เองก็ยังไม่แจกแจงรายละเอียด “แผนสันติภาพ” ของตัวเอง นอกเหนือไปจากคำพูดลอยๆ ว่าจะโทร.หา ปูติน และ เซเลนสกี เพื่อบอกให้พวกเขาทำข้อตกลงกัน หากตนได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีหลังวันที่ 5 พ.ย.
เซเลนสกี ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 79 ระบุเมื่อวันจันทร์ (23) ว่า การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวของสหรัฐฯ จะเป็นตัวเร่งให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนปิดฉากลงเร็วขึ้นได้ภายในปีหน้า
ทรัมป์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขา “อาจจะ” พบกับ เซเลนสกี ระหว่างที่ผู้นำยูเครนมาสหรัฐฯ ทว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการนัดหมายพบปะใดๆ ตามข้อมูลจากคนใกล้ชิด ทรัมป์
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เซเลนสกี ได้ไปเยือนโรงงานผลิตอาวุธที่รัฐเพนซิลเวเนียพร้อมกับ จอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐสายเดโมแครตซึ่งก็เป็นพันธมิตรของ แฮร์ริส ด้วย ในความเคลื่อนไหวที่ทำให้พวกผู้ช่วย ทรัมป์ บางคนไม่พอใจ เนื่องจากเพนซิลเวเนียถือเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิสำคัญ (battleground state) ที่อาจส่งผลชี้เป็นชี้ตายในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
ชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรปตะวันออกกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มฐานเสียงที่ถูกผู้สมัครทั้ง 2 ฝ่าย “รุมจีบ” หนักมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะที่รัฐเพนซิลเวเนียซึ่งมีคนเชื้อสายโปแลนด์และยูเครนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
สหรัฐฯ และพันธมิตรทุ่มงบประมาณหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครนหลังจากที่รัสเซียเปิดสงครามรุกรานในเดือน ก.พ. ปี 2022 นอกจากนี้ ยังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรแดนหมีขาวหลายระลอกเพื่อกดดันรัสเซียในทางเศรษฐกิจด้วย
ที่ผ่านมา ทรัมป์ มักจะพูดว่าสหรัฐฯ “สิ้นเปลือง” กับยูเครนไปมาก และไม่เคยพูดว่าอยากจะให้ยูเครนเป็นฝ่ายชนะสงคราม
ในส่วนของ เซเลนสกี ก็เคยออกมายอมรับว่า “เดาไม่ออก” ว่า ทรัมป์ จะมีนโยบายอย่างไรหากชนะศึกเลือกตั้ง แต่หวังว่าผู้นำสายรีพับลิกันคนนี้จะยังคงมอบการสนับสนุนทางทหารให้แก่เคียฟต่อไป
ที่มา : รอยเตอร์