สวีเดน ชาติซึ่งเป็นที่รู้กันมานานในด้านนโยบายอ้าแขนต้อนรับพวกผู้อพยพ เริ่มทนไม่ไหวกับปัญหาต่างๆ มีแผนยื่นข้อเสนอจ่ายเงินสดเพิ่มขึ้น 35 เท่า เป็น 34,000 ดอลลาร์ (ราว 1.1 ล้านบาท) ในความพยายามโน้มน้าวให้พวกผู้อพยพยอมเดินทางกลับมาตุภูมิ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน รัฐบาลฝ่ายขวาของสวีเดน แถลงว่าพวกเขาจะปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่มีในปัจจุบัน จากระะดับ 10,000 โครนา (ราว 978 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32,000 บาท) ต่อหัว เป็น 350,000 โครนา (ราว 34,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหัว และลดระเบียบขั้นตอนราชการที่เกี่ยวข้องกับการยื่นรับสิทธิดังกล่าว ในความพยายามกระจายข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้และดึงดูดพวกผู้รับข้อเสนอเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ในปัจจุบัน จำกัดเพดานสูงสุดไว้ที่ครอบครัวละไม่เกิน 40,000 โครนา (ราว 3,717 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 120,000 บาท) แต่ข้อเสนอใหม่นี้ไม่มีการจำกัดเพดานสูงสุดแต่อย่างใด
สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2026 ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สวนทางกับคณะศึกษาทบทวนชุดหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล ซึ่งระบุในรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า การส่งเสริมส่งตัวกลับประเทศจะเป็นตัวขัดขวางการบูรณาการพวกผู้ลี้ภัยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสวีเดน
ก้าวย่างนี้ถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านนโยบายและวาทกรรมของสวีเดน ซึ่งเป็นที่รู้กันมานาน ว่าเป็นแหล่งหลบภัยสำหรับพวกที่หลบหนีออกจากประเทศต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ เวลานี้กำลังมีชาติต่างๆ ในยุโรปมากขึ้นที่หันมาใช้จุดยืนแข็งกร้าวมากขึ้นในประเด็นผู้อพยพ ท่ามกลางการผงาดขึ้นมาของพรรคฝ่ายขวา และพรรคประชานิยม
รัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของสวีเดน มีเสาหลักคือพรรคสวีเดน เดโมแครตส์ พรรคขวาจัดที่คว้าเก้าอี้ในรัฐสภาได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในศึกเลือกตั้ง 2022 พรรคแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นในฐานะขบวนการเคลื่อนไหวนีโอ-นาซี ในช่วงทศวรรษ 1980 แต่ปรับโฉมตนเองในฐานะพรรคอนุรักษนิยมในเวลาต่อมา และมีมาตรการควบคุมผู้ลี้ภัยเป็นแก่นกลางของนโยบาย
ทั้งนี้ ประเด็นเกี่ยวกับการปฏิรูปนโยบายผู้ลี้ภัยของสวีเดน ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเจรจา ระหว่างการพูดคุยจัดตั้งรัฐบาล
ลุดวิก แอสพลิง สมาชิกรัฐสภาจากพรรคสวีเดน เดโมแครตส์ ให้คำจำกัดความข้อเสนอนี้ว่าเป็นแพกเกจช่วยเหลือ และอ้างว่าแผนการใหม่จะช่วยลดอุปสรรคด้านการบริหารของโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สวีเดน ชาติที่มีประชากร 10.6 ล้านนคน มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 250,000 คนในช่วงกลางปี 2023 มีเพียงแค่ราว 70 คน ยอมร้องขอรับสิทธิประโยชน์เมื่อปีที่แล้ว และมีเพียงแค่คนเดียวที่ได้รับมัน แต่มีผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ 16,000 คน จากแอฟริกา ตะวันออกกลางและเอเชียกลาง สมัครใจเดินทางออกจากสวีเดน โดยไม่ขอรับสิทธิประโยชน์ใดๆ ในปีที่แล้ว
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสวีเดนเปิดตัวนโยบายใหม่ด้านผู้ลี้ภัย ที่มีท่าทีเข้มงวดขึ้นกว่าเดิมในด้านการขออนุญาตพำนักอาศัย และมุ่งเน้นเพิ่มการส่งตัวกลับประเทศ ขณะที่การปฏิรูปด้านนโยบายยังรวมไปถึงการเปิดการตรวจสอบผลลัพธ์ของรายงานฉบับหนึ่ง ที่เตือนเกี่ยวกับผลกระทบของการเพิ่มสิทธิประโยชน์แลกกับการโยกย้ายถิ่นฐาน
การสืบสวนเป็นการตรวจสอบทบทวนนโยบายแบบเดียวกันที่ใช้โดยเดนมาร์ก ที่เสนอเงินสิทธิประโยชน์น้อยกว่าสวีเดนราวครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันพอประสบความสำเร็จอยู่บ้าง หลังพบว่ามีพวกผู้ลี้ภัยตั้งใจยอมรับข้อเสนอเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับจำนวนเงินที่เพิ่มให้
นโยบายคนเข้าเมืองและผู้ลี้ภัยที่เข้มงวดขึ้นของสวีเดน ก่อสภาพแสดล้อมที่ไม่แน่นอนแก่พวกผู้ลี้ภัย ทำให้พวกเขาหางานอย่างเป็นทางการได้ยากขึ้น และอ่อนแอต่ออาชญากรรมมากกว่าเดิม จากความเห็นของ มาร์คติน นีแมน ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ของ Civil Rights Defenders องค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีสำนักงานในสตอกโฮล์ม "สารจากรัฐบาลนี้ก็คือ ผู้คนไม่ควรเดินทางมายังสวีเดน"
พวกผู้เชี่ยวชาญตุ้งข้อสงสัยว่าจำนวนเงินที่มากขึ้นจะสามารถดึงดูดใจพวกผู้ลี้ภัยให้เดินทางออกไปได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากมีเพียงแค่คนเดียวที่ฉวยประโยชน์จากข้อเสนอนี้เมื่อปีที่แล้ว และแม้จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ในว่าที่มาตรการใหม่ แต่ก็ไม่อาจขจัดข้อสงสัยดังกล่าวไปได้
(ที่มา : นิวยอร์กไทม์ส)