อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เตือนเมื่อวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) ถึงความเสี่ยงของการเปลี่ยนเลบานอน กลายเป็น "อีกหนึ่งกาซา" ท่ามกลางความเป็นปรปักษ์ที่ปะทุขึ้นระหว่างอิสราเอลกับพวกฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธเลบานอน
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ก่อนการประชุมประจำปีของพวกผู้นำโลก ณ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ทาง กูเตอร์เรส ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ระหว่างอิสราเอลและฮามาส หลังสงครามยืดเยื้อมานานกว่า 11 เดือน
"สำหรับผมแล้ว มันชัดเจนว่าทั้ง 2 ฝ่ายไม่สนใจในข้อตกลงหยุดยิง และมันเป็นเรื่องน่าเศร้า ผมว่าสงครามนี้ต้องหยุดลง" กูเตอร์เรสกล่าว "ทั้งรัฐบาลอิสราเอลและฮามาสต่างไม่ต้องการข้อตกลงหยุดยิงจริงๆ"
หลังจากเหตุยิงปะทะข้ามชายแดนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ดุเดือดยิ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ กูเตอร์เรสกล่าวว่า "สิ่งที่ผมกังวลคือ ความเป็นไปได้ของการแปรเปลี่ยนเลบานอน กลายเป็นอีกหนึ่งกาซา"
พวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ยิงตอบโต้ข้ามชายแดนกับอิสราเอลมานานเกือบ 1 ปี ในการแสดงจุดยืนสนับสนุนพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งลงมือโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม จุดชนวนสงครามในกาซา จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เหตุปะทะทวีความดุเดือดยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่อิสราเอลเบี่ยงความสนใจมาที่ชายแดนทางเหนือ หลังสามารถก่อความอ่อนแอแก่ฮามาสได้อย่างมาก
ในวันศุกร์ (20 ก.ย.) อิสราเอลโจมตีแถบชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน สังหารสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ไปอย่างน้อย 16 ราย ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการระดับสูงรายหนึ่ง แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิต 45 ราย และในนั้นมีพลเมืองรวมอยู่ด้วย
ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามเต็มรูปแบบ อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ เดินหน้ายิงตอบโต้แก้แค้นกันไปมาอย่างหนักเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นาอิม กัสเซม รองหัวหน้าฮิซบอลเลาะห์ ในวันอาทิตย์ (22 ก.ย.) ระบุว่ากลุ่มนักรบของพวกเขาอยู่ใน "เฟสใหม่" ในการสู้รบกับอิสราเอล ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "สงครามแห่งการชำระแค้น"
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ต้องยับยั้งชั่งใจเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามขยายวงเป็นสงครามภูมิภาค และว่าสหรัฐฯ กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยความกังวล
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR (U.N. High Commissioner for Refugees) ระบุว่า กำลังจับตาเรื่องนี้ และ "การขยายความขัดแย้งอาจมีผลที่ตามมาซึ่งไม่อาจประเมินได้"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (20 ก.ย.) สำนักข่าวโพลิติโก อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลโจ ไบเดน เปิดเผยว่า พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คาดหมายว่าการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ จะทวีความเข้มข้นในอีกวันข้างหน้า และมีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู้สงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่ามันจะมีแนวโน้มเป็นไปตามคำทำนายทุกขณะ
(ที่มา : เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น)