สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรไม่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่ได้รับมอบจากพวกเขาโจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ภายในรัสเซีย ด้วยความหวั่นเกรงต่อสถานการณ์ลุกลามบานปลาย จากการเปิดเผยของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เคยเตือนว่าการไฟเขียวให้ใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีใส่รัสเซีย จะเท่ากับว่าบรรดาชาติต่างๆ ของนาโตได้เปิดศึกสงครามกับมอสโก
"ทั้งอเมริกาและสหราชอาณาจักรต่างก็ไม่อนุญาตให้เราใช้อาวุธนี้ในดินแดนของรัสเซีย ไม่ว่าเป้าหมายใดหรือระยะทำการใดก็ตาม" เซเลนสกีบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในช่วงค่ำวันศุกร์ (20 ก.ย.) "ผมคิดว่าพวกเขาคงกังวลสถานการณ์ลุกลาม (ความเป็นปรปักษ์)
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี เผยว่าบรรดาพันธมิตรของยูเครนได้เพิ่มแรงสนับสนุนทางทหารที่มอบแก่กองทัพเคียฟ ซึ่งกำลังสู้รบเพื่อหยุดการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย ในภาคตะวันออกของประเทศ "ความช่วยเหลือได้เร่งมือขึ้นในเดือนกันยายน เรายินดี เราสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง"
ความล่าช้าในการป้อนอาวุธ อันสืบเนื่องจากความเห็นต่างทางการเมืองระหว่างพันธมิตร ส่งผลให้ก่อนหน้านี้กองกำลังยูเครนต้องประสบปัญหาขาดแคลนเสบียง ในขณะที่พวกเขาต้องพึ่งพิงแรงสนับสนุนทางทหารดังกล่าวเป็นอย่างมาก
เคียฟมีกำลังพลและอาวุธน้อยกว่ากองกำลังรัสเซียเป็นอย่างมาก ในขณะที่พวกเขาต้องต่อสู้ต้านทานรัสเซีย มาตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ขณะเดียวกัน ความพยายามยุติสงครามดูเหมือนจะยังไม่ประสบความสำเร็จ โดย เซเลนสกี ปฏิเสธแผนสันติภาพที่ผลักดันโดนจีนและบราซิล อ้างว่ามันคลุมเครือเกินไป
จีนและบราซิลสนับสนุนความคิดหนึ่งในการจัดการประชุมสันติภาพนานาชาติ อันเป็นที่ยอมรับของทั้งรัสเซียและยูเครน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าร่วมอย่างเท่าเทียม และทุกทางเลือกจะถูกวางอยู่บนโต๊ะ
ปักกิ่งและมอสโก มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากยูเครน ในขณะที่สหรัฐฯ กล่าวอ้างว่า แม้จีนไม่ได้ป้อนอาวุธแก่รัสเซียโดยตรง แต่ปักกิ่งช่วยมอสโกเพิ่มกำลังผลิตภายในประเทศอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทั้งขีปนาวุธ โดรนทหาร และรถถัง
เซเลนสกี หวังนำเสนอแผนของตนเองที่เขาเรียกว่า "แผนแห่งชัยชนะ" ครั้งที่พบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า "แผนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการตัดสินใจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม เราจะชอบแผนนี้เป็นอย่างมาก เราเชื่อว่าแผนนี้จะได้ผล"
ผู้นำยูเครนเผยด้วยว่าบางทีเขาอาจจะพบปะกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ในวันที่ 26 หรือ 27 กันยายนนี้ด้วยเช่นกัน
ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างปี 2017 และ 2021 มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์ที่วอชิงตันมอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาสามารถยุติสงครามได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่ไม่เคยอธิบายเกี่ยวกับแผนดังกล่าว
(ที่มา : เอเอฟพี)