รัฐบาลยูเครนสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ทหาร และพนักงานในภาคส่วนสำคัญอื่นๆ ใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) บนอุปกรณ์สื่อสารของรัฐ หลังเชื่อว่ารัสเซียสามารถล้วงข้อมูลทั้งในส่วนของข้อความและข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แอปดังกล่าวได้
สภาความมั่นคงและกลาโหมแห่งชาติยูเครนประกาศวานนี้ (20 ก.ย.) ว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ คีรีโล บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหาร GUR ของยูเครน ได้นำเสนอหลักฐานต่อทางสภาฯ ว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซียสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เทเลแกรม รวมถึงข้อความที่ส่งหากันทั้งที่ยังอยู่และ “ลบทิ้ง” ไปแล้ว
“ตัวผมเองสนับสนุนเรื่อยมา และยังคงยืนกรานสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่กรณีของเทเลแกรมนี้ไม่ใช่เรื่องเสรีภาพ หากแต่เป็นภัยความมั่นคงของรัฐ” บูดานอฟ กล่าว
มาตรการนี้จะมีผลเฉพาะกับอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ในงานของรัฐเท่านั้น และไม่ครอบคลุมถึงโทรศัพท์ส่วนตัว
หลังจากที่มีประกาศของยูเครนออกมา เทเลแกรมก็แถลงโต้ทันทีว่า ทางแพลตฟอร์มไม่เคยเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อความของผู้ใช้ให้กับประเทศใดๆ รวมถึงรัสเซีย และข้อความซึ่งถูกลบไปแล้วนั้น ในทางเทคนิคถือว่า “หายตลอดกาล” ไม่สามารถกู้ได้อีก
บริษัทยังชี้แจงด้วยว่า บรรดา “แชตหลุด” ทั้งหลายล้วนถูกพิสูจน์แล้วว่าเกิดจากการที่อุปกรณ์สื่อสารถูกละเมิด ไม่ว่าจะเป็นการถูกยึด หรือโดนมัลแวร์เล่นงานก็ตาม
เทเลแกรมเป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานอย่างกว้างขวางทั้งในยูเครนและรัสเซีย และถือเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญ หลังจากที่กองทัพหมีขาวเปิดสงครามรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2022
จากฐานข้อมูลของ Telemetrio พบว่า ปัจจุบันมีบัญชีเทเลแกรมใช้งานอยู่ในยูเครนมากถึง 33,000 บัญชี
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยูเครนเคยออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้แอปนี้อยู่บ่อยครั้ง
เทเลแกรมซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ดูไบถูกก่อตั้งโดย พาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) ซึ่งเดินทางออกจากรัสเซียเมื่อปี 2014 หลังจากที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของมอสโกในการปิดกลุ่มสนทนาของฝ่ายต่อต้านรัฐบนแพลตฟอร์ม VKontakte ซึ่งต่อมา ดูรอฟ ได้ตัดสินใจขายทิ้งไป
ดูรอฟ ถูกจับกุมขณะเดินทางไปที่ฝรั่งเศสเมื่อเดือน ส.ค. โดยทางการฝรั่งเศสอ้างว่าต้องการได้ตัวเขาไปสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อลามกเยาวชน การค้ายาเสพติด และธุรกรรมผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นบนเทเลแกรม
ที่มา : รอยเตอร์