ตำรวจสหรัฐฯ พบศพชายต้องสงสัยซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงใส่รถยนต์บนทางหลวงในรัฐเคนทักกีเมื่อวันที่ 7 ก.ย. จนเป็นเหตุให้มีผู้ใช้รถบาดเจ็บไป 5 ราย และนำมาสู่ปฏิบัติการไล่ล่าครั้งใหญ่ในพื้นที่ป่าโดยรอบ
ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องสงสัยคือ โจเซฟ เคาช์ (Joseph Couch) วัย 32 ปี ได้กราดยิงใส่รถยนต์แบบไม่เลือกหน้า โดยใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติแบบ AR ที่ซื้อมาอย่างผิดกฎหมายในเช้าวันเกิดเหตุพร้อมกับกระสุนอีก 1,000 นัด
พนักงานสอบสวนยังไม่เปิดเผยมูลเหตุจูงใจของคนร้าย แต่จากข้อความที่ เคาช์ ส่งถึงอดีตภรรยาบ่งชี้ว่า เขามีเจตนาฆ่าตัวตายหลังจากที่ออกไปยิงคนแปลกหน้าแล้ว
ฟิลลิป เบอร์เน็ตต์ ผู้กำกับการตำรวจรัฐเคนทักกี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและสองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ติดตามหา เคาช์ “ไปพบศพต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ป่า”
“เราค่อนข้างมั่นใจว่า นี่คือจุดสิ้นสุดของปฏิบัติการค้นหา โจเซฟ เคาช์” เบอร์เน็ตต์ กล่าว พร้อมเผยว่าของใช้ส่วนตัวที่พบอยู่กับศพพบบ่งชี้ว่าผู้ตายคือ เคาช์ และยังมีอาวุธตกอยู่ใกล้ๆ ด้วย
ร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกส่งไปยังเมืองแฟรงก์ฟอร์ต (Frankfort) เพื่อทำการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์อีกครั้ง
ก่อนที่จะเกิดเหตุกราดยิงขึ้น อดีตภรรยาของ เคาช์ ได้โทร.แจ้งตำรวจว่าเขาส่งข้อความหาเธอบอกว่า “จะออกไปฆ่าคนเยอะๆ หรืออย่างน้อยก็จะพยายาม” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ Lexington Herald-Leader ซึ่งอ้างคำให้การที่นำไปสู่การออกหมายจับ เคาช์
ต่อมาหญิงคนนี้ยังได้แจ้งให้ตำรวจทราบอีกว่า อดีตสามีส่งข้อความมาบอกว่า “จะฆ่าตัวตายหลังจากนั้น”
สำหรับสองสามีภรรยา เฟร็ด และ เชย์ลา แมคคอย ซึ่งช่วยเจ้าหน้าที่ค้นหาจนพบศพของ เคาช์ จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Herald-Leader รายงานว่าทั้งสองคนมองเห็น “อีแร้ง” หลายตัวบินอยู่บริเวณจุดพบศพ โดยระหว่างที่ทั้งคู่กำลังถ่ายคลิปนั้นก็มีเสียงใครคนหนึ่งร้องเตือนว่า “ห้ามถ่ายภาพนะ นี่เป็นที่เกิดเหตุ (crime scene)”
ตำรวจและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากหลายรัฐได้ร่วมกันติดตามค้นหาตัว เคาช์ ภายในพื้นที่ป่าแห่งชาติ แดเนียล บูน (Daniel Boone National Forest) โดยมีการนำเฮลิคอปเตอร์ โดรน สุนัขดมกลิ่น และหน่วยปฏิบัติการตอบสนองพิเศษเข้ามาช่วยด้วย
สำหรับเหตุกราดยิงนี้เกิดขึ้นบนทางหลวง Interstate 75 โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากเมืองลอนดอนทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐเคนทักกีไปประมาณ 13 กิโลเมตร
กระสุนที่ เคาช์ ยิงใส่รถยนต์ที่ขับผ่านไปมาทำให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย และมียานพาหนะได้รับความเสียหายไปอย่างน้อย 12 คัน
ที่มา : รอยเตอร์