ราคาน้ำมันขยับลงในวันพุธ (18 ก.ย.) หลังความเคลื่อนไหวปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อความกังวลต่อสถานะทางเศรษฐกิจของอเมริกา ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบเล็กน้อย ขณะที่ทองคำก็ขยับขึ้นเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 28 เซนต์ ปิดที่ 70.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 73.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% มากกว่าที่คาดหมายไว้ โหมกระพือความกังวลว่าเฟดอาจมองเห็นตลาดงานกำลังชะลอตัว แม้ปกติแล้วการปรับอัตราดอกเบี้ยมักช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์ทางพลังงาน แต่ตลาดงานที่อ่อนแอก็อาจเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจ
ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันมีขึ้นแม้ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล เหลือ 417.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (18 ก.ย.) หลังเฟดแถลงปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ยุติข่าวลือที่มีมานานหลายวันเกี่ยวกับขนาดของความเคลื่อนไหวปรับลดในครั้งนี้
ดาวโจนส์ ลดลง 103.08 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 41,503.10 เอสแอนด์พี ลดลง 16.32 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,618.26 จุด แนสแดค ลดลง 54.76 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,573.30 จุด
เฟดเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่นักวิเคราะห์บางส่วน ที่คาดหมายว่าการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% น่าจะเป็นการตัดสินใจที่เป็นไปได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักสังเกตการณ์ด้านการตลาดบางส่วน เชื่อว่าอย่างไรเสียตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็จะขยับลงอยู่ก่อน ไม่ว่าผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะออกมาเช่นไร หลังวอลล์สตรีทดีดขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
"เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในทรวดทรงที่ดี" เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงข่าว เน้นถึงเงินเฟ้อที่ต่ำลงและการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง "ตลาดแรงงานอยู่ในอัตราที่เข้มแข็ง เราต้องการรักษามันไว้"
พาวเวล บอกว่าการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ที่นำพาบรรดาคณะกรรมการกำหนดนโยบายสรุปว่าการตัดสินใจทางการเงินต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดเหมาะสม แต่มันถึงเวลาแล้วสำหรับนโยบายที่เป็นกลางกว่าเดิม"
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00%
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ (18 ก.ย.) ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
หากไม่นับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งสุดท้ายที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เกิดขึ้นในปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
ด้านราคาทองคำปิดบวกในวันพุธ (18 ก.ย.) หลังจากเฟดแถลงปรับลดดอกเบี้ยเชิงรุก 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,598.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)