คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนทำเนียบขาว ยืนยันในวันอังคาร (17 ก.ย.) เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วที่พาดพิงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย ต่อบทบาทของเขาในเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อเดือนมกราคมปี 2021 ไม่สนใจคำกล่าวอ้างของทรัมป์ ที่ชี้ว่าวาทกรรมดังกล่าวเป็นตัวยุยุงปลุกปั่นให้เกิดความพยายามลอบสังหารเขา
ฌอง-ปิแอร์ ประณาม ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าเป็น "ภัยคุกคาม" ต่อการจัดตั้งรัฐบาลของอเมริกา ครั้งที่ถูก เซนินา หวัง ผู้สื่อข่าวของเอบีซีนิวส์ ถามระหว่างแถลงสรุปประจำวันเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของทรัมป์ ที่ว่าวาทกรรมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เป็นต้นตอที่ทำให้เขาถูกลอบสังหาร
"ประธานาธิบดีไบเดน มีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับภัยคุกคามของอดีตประธานาธิบดีที่มีต่อประชาธิปไตยของเรา" ฌอง-ปิแอร์ กล่าว "เขาไม่ยอมรับผลเลือกตั้งที่ยุติธรรมและเป็นไปอย่างเสรี ในปี 2020 และผู้คนกว่า 2,000 คน บุกไปยังอาคารรัฐสภาด้วยความเดือดดาล พยายามล้มการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม"
โฆษกทำเนียบขาวรายนี้กล่าวต่อว่า "เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ จะไม่หยุดประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี จากการส่งเสียงเรียกร้องอย่างเข้มแข็ง เมื่อเป็นเรื่องของการปกป้องประชาธิปไตยของเรา เราจำเป็นต้องเข้มแข็งในเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องชัดเจน"
ไรอัน เวสลีย์ รูธ มือลอบสังหารวัย 58 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) หลังถูกพบกำลังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้พร้อมกับปืนไรเฟิลใกล้กับสนามกอล์ฟของทรัมป์ ในแถบเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เหตุการณ์นี้มีขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากเพิ่งมีความพยายามลอบสังหารทรัมป์ ขณะปราศรัยหาเสียงในเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ส่งผลให้ ทรัมป์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหูจากการพุ่งเฉี่ยวของกระสุน และมีผู้รับฟังการปราศรัย 1 คน ถูกลูกหลงเสียชีวิต
รูธ เคยโพสต์ข้อความบนแฟลตฟอร์มเอ็กซ์ในเดือนเมษายน ว่า "ประชาธิปไตยอยู่บนบัตรเลือกตั้ง และเราไม่อาจพ่ายแพ้ได้" คำพูดที่ ไบเดน และแฮร์ริส มักใช้สโลแกนดังกล่าวอยู่เป็นประจำ
ในข้อความที่โพสต์ในวันดังกล่าว เขายังเขียนแนะนำ ไบเดน วัย 81 ปี ซึ่งตอนนั้นยังคงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าให้เดินหน้ารักษา "ความเป็นประชาธิปไตยและความเสรีของอเมริกา" ต่อไป พร้อมกับอ้างว่า ทรัมป์ ต้องการทำให้ "อเมริกันชนเป็นทาสรับใช้"
ท่าทีของ ฌอง-ปิแอร์ ถูกท้าทายจาก ปีเตอร์ ดูซีย์ ผู้สื่อข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ "นี่เพิ่ง 2 วันหลังจากใครบางคนพยายามฆ่าโดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้ง และคุณมายืนอยู่ตรงโพเดียม ณ ห้องแถลงข่าวทำเนียบขาว แล้วเรียกเขาว่า ภัยคุกคามอีกแล้ว" ดูซีย์กล่าว "จะต้องมีความพยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ อีกกี่ครั้ง จนกว่าประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี รวมถึงตัวคุณ จะใช้คำอื่นเรียกทรัมป์ แทนคำว่าภัยคุกคาม?"
ในเรื่องนี้ ฌอง ปิแอร์ ตอบโต้กลับว่า "ฉันไม่เห็นด้วยกับสมมติฐานในคำถามของคุณโดยสิ้นเชิง คำถามของคุณก็กำลังก่ออันตรายอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน ในแนวทางที่คุณกำลังตั้งคำถาม เพราะว่าประชาชนชาวอเมริกากำลังดูอยู่"
"สำหรับคุณแล้ว ในรูปแบบความคิดเห็นในคำถามของคุณ มันก็ก่ออันตรายอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน ในเมื่อเรามีความชัดเจนมากๆ ในการประณามความรุนแรงทางการเมือง จากตรงนี้ ณ ห้องนี้ สิ่งที่ฉันพูดเกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดี ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม เป็นข้อเท็จจริง" ฌอง ปิแอร์กล่าว
ดูซีย์ ยังรุกไล่ต่อ กล่าวว่า "ยังมีคนคุ้มดีคุ้มร้ายที่พยายามสังหารบรรดาผู้สมัครทางการเมือง พยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ และพวกเขายังคงฟังสิ่งนี้ สิ่งที่ทำเนียบขาวพาดพิงเขาว่าเป็นภัยคุกคาม ไม่มีความกังวลใดๆ ว่าคนเหล่านั้นจะรับสารดังกล่าวเลยหรือ" ในเรื่องนี้ ฌอง-ปิแอร์ ปกป้องคำพูดของเธอว่า "เราแค่ยกตัวอย่าง"
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)