ราคาน้ำมันขยับขึ้นราว 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร (17 ก.ย.) จากความปั่นป่วนทางอุปทานและความคาดหมายอุปสงค์เติบโต ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปรับลด ก่อนหน้าการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 73.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การผลิตน้ำมันดิบจากอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ยังคงสูญเสียกำลังผลิตราว 12% หลังจากเฮอร์ริเคนแฟรนไชน์ซัดถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น 5 วันติด ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นพวกนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์ คาดหมายว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ น่าจะลดลงราว 500,000 บาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 กันยายน ปัจจัยนี้น่าจะตอกย้ำอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมันเช่นกัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดในกรอบแคบๆ ในวันอังคาร (17 ก.ย.) นักลงทุนพินิจพิเคราะห์ยอดค้าปลีกที่ดีเกินคาด ก่อนหน้าที่การประชุมเฟดที่จะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 15.90 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 41,606.18 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.49 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,634.58 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.93 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,628.06 จุด
ยอดค้าปลีกโดยรวมในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นผิดคาด 0.1% จากเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 710,800 ล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะลดลง 0.2%
อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นว่า พวกผู้บริโภคเมินเฉยสินค้าฟุ่มเฟือย หันไปจับตาสินค้าที่มีความจำเป็น สะท้อนถึงภาวะตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นในบรรดาผู้บริโภค
ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้าการประชุมเฟด ท่ามกลางความคาดหมายว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินจะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในวันพุธ (18 ก.ย.) แต่ตลาดไม่มั่นใจว่าจะมากน้อยแค่ไหน
ส่วนราคาทองคำขยับลงในวันอังคาร (17 ก.ย.) จากการแข็งค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาที่ดีเกินคาด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 16.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,592.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)