ชายผู้ต้องสงสัยว่าพยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏตัวในศาลชั้นต้นสหรัฐฯ และถูกตั้งข้อหาทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับอาวุธปืน 2 กระทง เมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) 1 วันหลังถูกพบเห็นว่าแอบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้พร้อมอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม ณ สนามกอล์ฟที่รัฐฟลอริดา ของอดีตประธานาธิบดีอเมริกันผู้นี้ ขณะที่การตรวจสอบจากโทรศัพท์มือถือของเขาพบว่า เขาอาจจะหลบอยู่แถวรอบนอกสนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นเวลานานเกือบ 12 ชั่วโมงทีเดียว ก่อนที่จะถูกพวกเจ้าหน้าที่พบเห็น
ไรอัน รูธ วัย 58 ปี ชายต้องสงสัยผู้นี้ น่าที่จะถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมอีก แต่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯระบุว่า จาก 2 กระทงความผิดในเบื้องต้นนี้ ซึ่งได้แก่ การมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองทั้งๆ ที่เป็นอาชญากรซึ่งถูกตัดสินแล้วว่ามีความผิดจริง และการครอบครองอาวุธปืนที่หมายเลขทะเบียนถูกลบทิ้งไป ก็น่าจะเปิดทางให้พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสามารถควบคุมตัวเขาเอาไว้ขณะที่การสอบสวนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สมัครที่พรรครีพับลิกันส่งลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทว่าเหตุการณ์นี้ก็ก่อให้เกิดคำถามสดๆ ร้อนๆ ขึ้นมาว่า ทำไมผู้ต้องสงสัยที่ถืออาวุธมาด้วย จึงสามารถเข้าไปใกล้ตัวเขาได้ถึงขนาดนี้ เพียงแค่ 2 เดือนหลังจากเกิดเหตุมือปืนอีกคนหนึ่งลอบยิงใส่ทรัมป์มาแล้ว ระหว่างการปราศรัยหาเสียงของเขาในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งกระสุนปืนนัดหนึ่งพุ่งเฉียดใบหูของเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ริก แบรดชอว์ ผู้บริหารเทศมณฑลปาล์มบีช เผยว่า เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับ (Secret Service) ที่มีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีและบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ สังเกตเห็นลำกล้องปืนไรเฟิลโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ที่เป็นแนวเขตสนามกอล์ฟ โดยตรงนั้นอยู่ห่างจากบริเวณที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเล่นกอล์ฟอยู่ประมาณไม่กี่ร้อยเมตร จึงยิงใส่พุ่มไม้ดังกล่าวอย่างน้อย 4 นัด ทำให้ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีไปโดยทิ้งปืนไรเฟิลจู่โจมเอเค-47 เป้หลัง 2 ใบ กล้องถ่ายวิดีโอโกโปร และถุงพลาสติกบรรจุอาหารเอาไว้ และขึ้นรถขับหนีออกไปก่อนถูกจับได้ในเทศมณฑลมาร์ติน ที่อยู่ห่างจากสนามกอล์ฟ 65 กม.
แบรดชอว์ยังอธิบายข้อสงสัยเกี่ยวกับระดับการอารักขาทรัมป์ว่า เนื่องจากทรัมป์ไม่ได้อยู่ตำแหน่ง ดังนั้น จึงไม่มีการปิดกั้นห้ามเข้า-ออกสนามกอล์ฟทั้งหมด แต่มีการรักษาความปลอดภัยในบริเวณจำกัดตามที่กรมกิจการลับเห็นว่าเป็นไปได้
สำหรับในคำบรรยายฟ้องระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ รูธ แสดงสถานที่อยู่ของมันว่าอยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งดังกล่าวมาตั้งแต่เวลาย่างเข้า ตี 1.59 น. ของวันอาทิตย์
ขณะเดียวกัน คำบรรยายฟ้องระบุอีกว่า รูธ เคยถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญามาแล้วอย่างน้อย 2 ข้อหา ซึ่งต่างเกิดขึ้นในรัฐนอร์ทแคโรไลนา
ในปี 2002 เขารับสารภาพว่าครอบครองปืนอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์กระบอกหนึ่ง ซึ่งรู้จักเรียกขานกันว่าปืนกล อันเป็นอาวุธที่ถือว่าผิดกฎหมายไม่สามารถครอบครองได้ในสหรัฐฯ และถูกตัดสินลงโทษภาคทัณฑ์ โดยในคดีดังกล่าวนี้ เขาได้หลบหนีขณะรถติดการจราจรที่เมืองกรีนสโบโร และได้ไปหลบอยู่ภายในสถานที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับหลังคาของเขา ก่อนที่ตำรวจสามารถเข้าไปจับตัวเขาได้
จากนั้นในปี 2010 เขาถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงในคดีครอบครองสินค้าที่ถูกขโมยมา
ทางด้านทรัมป์ ได้กล่าวประณามประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นคู่แข่งขันจากพรรคเดโมแครตของเขาในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคราวนี้ สำหรับเหตุการณ์พยายามลอบสังหารที่เกิดขึ้น เขาอ้างว่ามือปืนรายนี้ออกมาปฏิบัติการ สืบเนื่องจาก “การใช้ภาษาที่เต็มไปด้วยความเผ็ดร้อน” ของทางพรรคเดโมแครต ถึงแม้พวกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เสนอหลักฐานเกี่ยวกับแรงจูงใจใดๆ
“การใช้ถ้อยคำของพวกเขาคือตัวการทำให้ผมถูกยิง ในเมื่อผมคือคนที่กำลังจะรักษาประเทศชาติให้อยู่รอด ส่วนพวกเขาคือพวกที่กำลังทำลายประเทศชาติ ทั้งจากภายในและภายนอก” เขากล่าว ทั้งนี้ตามรายงานของฟ็อกซ์นิวส์
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังเกิดเหตุการณ์นี้ไม่นาน ทรัมป์ได้โพสต์ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมกิจการลับและตำรวจ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีอะไรหยุดยั้งตนเองได้
ส่วนทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ได้รับการบรรยายสรุปเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และต่างมีความยินดีที่ทราบว่า ทรัมป์ปลอดภัย ทั้งคู่ยังออกคำแถลงประณามการใช้ความรุนแรงทางการเมือง
นอกจากนั้น ไบเดนยังสั่งการให้ทีมงานตรวจสอบให้แน่ใจว่า กรมกิจการลับมีทรัพยากรที่จำเป็นในการรักษาความปลอดภัยของทรัมป์
จากการที่ทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหาร 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 2 เดือน จึงกลายเป็นการตอกย้ำความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีท่ามกลางการหาเสียงที่ดุเดือดและมีการแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายทางการเมืองอย่างชัดเจน อีกทั้งยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับปฏิบัติการอารักขาบุคคลสำคัญของกรมกิจการลับ หลังจากหน่วยงานแห่งนี้เคยยอมรับว่า ล้มเหลวในการป้องกันความพยายามลอบสังหารทรัมป์ที่เพนซิลเวเนีย จนกระทั่งผู้อำนวยการของหน่วยงานถูกบีบบังคับให้ต้องยอมลาออกจากตำแหน่ง
รายงานระบุว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) จะเป็นผู้นำในการสอบสวนคดีนี้ ขณะที่ รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาสังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศว่า ฟลอริดาจะเปิดการสอบสวนคดีนี้เช่นกัน เนื่องจากประชาชนสมควรได้รับรู้ความจริง
ขณะเดียวกัน สื่อยักษ์อเมริกันต่างรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายว่า รูธ วัย 58 ปี เป็นอเมริกันที่มาจากรัฐฮาวาย นอกจากนั้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยังได้เข้าค้นบ้านหลังหนึ่งในเมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเพื่อนบ้านยืนยันว่า เป็นบ้านพักของรูธ
วิลเลียม สไนเดอร์ ผู้บริหารเทศมณฑลมาร์ติน เผยว่า ตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถ รูธมีสีหน้าเรียบเฉยและแทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
สื่อต่างๆ ยังตามสืบสาวประวัติของผู้ต้องสงสัยผู้นี้ โดยระบุว่า เมื่อต้นปีนี้ รูธโพสต์เตือนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า ประชาธิปไตยของอเมริกาคือเดิมพันสำคัญ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 รูธโพสต์สนับสนุนการลงเลือกตั้งอีกครั้งของทรัมป์ แต่ไม่กี่ปีต่อมา เขาเปลี่ยนใจมาโพสต์สนับสนุนไบเดนและแฮร์ริสแทน
จากบทสัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทมส์เมื่อปีที่แล้ว ผู้ต้องสงสัยรายนี้พยายามระดมพวกทหารอัฟกานิสถานที่หนีกลุ่มตอลิบานไปสู้รบในยูเครน รวมทั้งยังใช้เวลาหลายเดือนในยูเครน รณรงค์ให้สหรัฐฯและฝ่ายตะวันตกช่วยเหลือเคียฟในการสู้รบทำสงครามกับรัสเซีย
ทั้งนี้ แฮร์ริสมีนโยบายอย่างเดียวกับไบเดน ในการประกาศสนับสนุนยูเครนทำศึกกับรัสเซีย รวมทั้งย้ำเตือนตลอดมาว่า ทรัมป์เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยของประเทศ ขณะที่ทรัมป์นั้น ระหว่างการโต้วาทีกับแฮร์ริสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเขาถูกถามคำถามว่า ต้องการให้ยูเครนชนะหรือไม่ เขาก็เลี่ยงไปตอบว่า เขาอยากให้สงครามนี้สิ้นสุดลง
(ที่มา: รอยเตอร์/เอพี)