รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน วันจันทร์(16 ก.ย)ลงนามคำสั่งเกณฑ์กำลังพลอีก 180,000 นายเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ธ.คที่จะถึงหลังศึกยูเครนลากยาวกว่า 2 ปีขณะที่ผู้นำยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันเดียวกันลงนามจัดตั้งกองกำลังโดรนเคียฟเป็นครั้งแรก หลัง 2 ชาติแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ 206 คนในวันเสาร์(14 ก.ย)
รอยเตอร์รายงานวันนี้(16 ก.ย) รัสเซียเพิ่มกำลังพลครั้งใหม่โดยจะมีผลบังคับใช้ในปลายปีในวันที่ 1 ธ.คที่จะถึง ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามคำสั่งเพิ่มกำลังพลอีกจำนวน 180,000 นายเพื่อให้เป็นจำนวนทั้งหมด 1.5 ล้านนาย
เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผู้นำรัสเซียสั่งเพิ่มกำลังทหารนับตั้งแต่เริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ ปี 2022
คำสั่งถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ทางการรัฐบาลเครมลิน รอยเตอร์ชี้ว่าผู้นำรัสเซียสั่งให้กำลังพลเพิ่มจำนวนทั้งหมดมาอยู่ที่เกือบ 2.38 ล้านนาย ที่ในจำนวนทั้งหมดนี้ปูตินชี้ว่า 1.5 ล้านนายควรเป็นทหารประจำการที่อยู่ในการปฎิบัติหน้าที่
เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี อ้างอิงจากสื่อยูเครน เคียฟอินดิเพนเดนท์ ได้ลงนามคำสั่งวันจันทร์(16) จัดตั้งกองกำลังโดรนยูเครนเป็นครั้งแรกของประเทศ
มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการทำงานของโดรนสำหรับกองทัพยูเครน ก่อตั้งหน่วยโดรนพิเศษ และการพัฒนาการผลิต การฝึกซ้อม และนวัตรกรรมเทคโนโลยีล้ำยุคของโดรน
รองผู้บัญชาการกองทัพบกยูเครน พันเอก วาดิม ซูคาเรฟสกี (Vadym Sukharevskyi) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยโดรนยูเครนที่เพิ่งจัดตั้งใหม่
เกิดขึ้นหลังวันเสาร์(14)ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม รอยเตอร์รายงานว่า การแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นเป็นเวลา 2 วันและมีจำนวนทหารเชลยในการแลกเปลี่ยนทั้งหมด 206 คนหลังการเจรจาโดยมีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ย
ทั้งนี้ผู้นำยูเครนกล่าวว่ามีพลเมืองยูเครนทั้งหมด 103 คนกลับคืนประกอบไปด้วยทหารยูเครนและพลเรือนจำนวน 82 คนและเจ้าหน้าที่อีก 21 คน
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเช่นกันว่า มีทหารรัสเซีย 103 นายถูกแลกเปลี่ยนกลับมา โดยการแลกเปลี่ยนเชลยสงครามเกิดขึ้นที่ภูมิภาคคูร์สค์ (Kursk) ที่ยูเครนเริ่มเปิดฉากโจมตีฟ้าผ่าเมื่อสิงหาคม
ประธานาธิบดีเซเลนสกีแถลงความสำเร็จของการปลดปล่อยเชลยสงครามยูเครนมาได้ผ่านช่องทางเทเลแกรม รอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนก่อนหน้าเคยเปิดเผยว่าได้จับกุมทหารรัสเซียไม่ต่ำกว่า 600 นายระหว่างการรุกราน และจะช่วยทำให้สามารถนำชาวยูเครนที่โดนรัสเซียจับตัวคืนกลับมาได้