สหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธคำกล่าวหาของเวเนซุเอลา ที่ว่าสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) วางแผนลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร และเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายอื่นๆ
พลเมืองสหรัฐฯ 3 ราย ชาวสเปน 2 คน และชาวสาธารณรัฐเช็ก 1 คน ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยวางแผนบั่นทอนเสถียรภาพของประเทศ จากคำแถลงของ ดิออสดาโด คาเบลโล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเวเนซุเอลา
คาเบลโล เรียกพวกที่ถูกควบคุมตัวเหล่านี้ว่าเป็น "ทหารรับจ้าง" และอ้างว่าซีไอเอคือแกนนำของปฏิบัติการ และบอกว่าสามารถยึดอาวุธได้หลายร้อยรายการ
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ รุดออกมาปฏิเสธคำกล่าวหานี้ ระบุว่ามันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง ขณะที่มันมีขึ้นหลังจากวอชิงตันกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเวเนซุเอลา 16 คน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาเผยว่าสมาชิกของกองทัพสหรัฐฯ รายหนึ่งถูกจับกุมและเน้นว่ามีรายงานข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า มีพลเรือนอเมริกาถูกควบคุมอีก 2 ราย ในเวเนซุเอลา
คาเบลโล ตอบโต้คำแก้ตัวของสหรัฐฯ ระบุพวกที่ถูกควบคุมตัวเหล่านี้ติดต่อกับ "ทหารรับจ้างฝรั่งเศส" จากยุโรปตะวันออก และเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหนึ่งที่พยายามโจมตีเวเนซุเอลา พร้อมเผยว่าเจ้าหน้าที่สามารถยึดปืนไรเฟิลได้มากกว่า 400 กระบอก และกล่าวหาพวกผู้ถูกควบคุมตัวว่ากำลังวางแผน "ลงมือก่อการร้าย"
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเวเนซุเอล เผยว่าชาวสเปนที่ถูกควบคุมตัวมีความเกี่ยวข้องกับศูนย์ข่าวกรองแห่งชาติ (CNI) ของมาดริด อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรัฐบาลสเปนบอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นสมาชิกองค์กรหน่วยข่าวกรองแต่อย่างใด "รัฐบาลปฏิเสธคำพูดเป็นนัยใดที่โยงพวกเขาในความเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการบั่นทอนเสถียรภาพทางการเมืองในเวเนซุเอลา" แหล่งข่าวเผยกับเอเอฟพี
ในส่วนของสาธารณรัฐเช็ก ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ (14ก.ย.) คาเบลโล กล่าวว่า "ซีไอเอคือแกนนำของปฏิบัติการนี้ และมันไม่ได้สร้างความประหลาดใจเท่าไหร่ ยกเว้นแต่กรณีที่พวกเขา ศูนย์ข่าวกรองแห่งชาติสเปน ซึ่งมักเก็บตัวเงียบๆ ที่รู้เห็นกับปฏิบัติการของซีไอเอในพื้นที่นี้"
"2 คนที่ถูกควบคุมตัว ถึงขั้นให้ข้อมูลกับเรา เกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างที่พวกเขาเล็งดึงตัวเข้ามายังเวเนซุเอลา ด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจนมากๆ นั่นคือลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร รองประธานาธิบดีเดลซี โรดริเกซ และบรรดาสหายกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นแกนนำพรรคของเราและเป็นแกนนำการปฏิวัติของเรา"
คำกล่าวหานี้มีขึ้นท่ามกลางความบาดหมางระหว่างรัฐบาลมาดูโร กับทั้งสหรัฐฯ และสเปน อันมีต้นตอจากชัยชนะที่มีข้อถกเถียงของ มาดูโร ในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม
สภาเลือกตั้งแห่งชาติของเวเนซุเอลา (ซีเอ็นอี) ซึ่งมีพันธมิตรใกล้ชิดกับรัฐบาล ประกาศให้ มาดูโร เป็นผู้ชนะศึกเลือกตั้ง แต่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดของคะแนน ขณะที่ข้อมูลที่เผยแพร่โดยฝ่ายค้าน บ่งชี้ว่าตัวแทนของพวกเขา เอ็ดมุนโด กอนซาเลซ เป็นผู้ชนะที่แท้จริง
ในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) วอชิงตันคว่ำบาตรเล็งเป้าเล่นงานเจ้าหน้าที่สำคัญๆ ที่พวกเขาอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการโกงและการกล่าวอ้างชัยชนะที่ไม่ชอบธรรมของมาดูโร เช่นเดียวกับการปราบปรามอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนต่อสิทธิการแสดงออก ตามหลังศึกเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ในวันศุกร์ (13 ก.ย.) อีวาน กิล รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา เรียกตัวเอกอัครราชทูตสเปนเข้าพบเพื่อประท้วงในกรุงดามัสกัส หลังจาก มาร์การิตา โรเบิลส์ รัฐมนตรีกลาโหมของสเปน ให้คำจำกัดความรัฐบาลเวเนซุเอลา ว่าเป็น "เผด็จการ"
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก กอนซาเลซ เดินทางถึงสเปน เพื่อขอลี้ภัยทางการเมือง มาตรการที่ มาเรีย คอรินา มาชาโด ผู้นำในองค์รวมของฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ระบุว่า กอนซาเลซ จำเป็นต้องทำ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเสรีภาพ ความซื่อสัตย์และชีวิตของตนเอง
(ที่มา : บีบีซี)