ขีปนาวุธลูกหนึ่งของพวกกบฏฮูตีในเยเมน พันธมิตรของฮามาส พุ่งไกลถึงใจกลางอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.ย.) ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแม้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มันซ้ำเติมสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ท่ามกลางสงครามในกาซาที่ลากยาวมานานกว่า 1 ปี
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล บอกว่าพวกฮูตีที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน จะต้องชดใช้ราคาแพงสำหรับการโจมตี ซึ่งก่อไฟไหม้และสร้างความเสียหายอยู่บ้างใกล้กับเทลอาวีฟ ศูนย์กลางการค้าของอิสราเอล
พวกนักรบฮามาสประกาศว่า "อิสราเอลจะไม่มีวันอยู่เป็นสุข จนกว่าจะหยุดรุกรานอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนต่อประชาชนของเราในฉนวนกาซา"
เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์อิสราเอลเปิดเผยว่ามีประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ระหว่างรุดหลบหนีหาที่กำบัง ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนภัย
พบเห็นบานกระจกแตกบริเวณสถานีรถไฟแห่งหนึ่้งในเขตโมดิน ห่างจากเทลอาวีฟ ลงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 20 กิโลเมตร และตำรวจบอกว่าเศษชิ้นส่วนของตัวสกัดกั้นของระบบป้องกันภัยทางอากาศร่วงหล่นลงมา
ฮูตี หนึ่งในกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านหลายๆ กลุ่ม ที่ถูกลากเข้าสู่สงครามในกาซา อ้างว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงาน "ที่ตั้งทางทหาร" ของอิสราเอล
ปฏิบัติการนี้กระตุ้นความเดือดดาลจากผู้นำอิสราเอล โดยถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยทำเนียบนายกรัฐมนตรี ทาง เนทันยาฮู ระบุว่า "พวกเขาควรรู้ไว้ตั้งแต่บัดนี้เลยว่า เราจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้ราคาแพงสำหรับความพยายามใดๆ ที่ต้องการทำร้ายเรา"
ในเดือนกรกฎาคม โดรนโจมตีลำหนึ่งของฮูตีเจาะทะลวงระบบป้องกันภัยทางอากาศซับซ้อนของอิสราเอล และสังหารพลเรือน 1 รายในเทลอาวีฟ ซึ่งอยู่ห่างจากเยเมนอย่างน้อยๆ 1,800 กิโลเมตร มันกระตุ้นการโจมตีแก้แค้นที่ก่อความเสียหายอย่างหนักและความสูญเสีย ณ ท่าเรือไฮเดดา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏกลุ่มนี้
อับดุล มาลิก ฮัล-ฮูตี ผู้นำกลุ่มกบฏกล่าวว่าการโจมตีในวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ดำเนินการโดยใช้ "ขีปนาวุธแบบทิ้งตัวลูกหนึ่ง" ซึ่งเจาะทะลวงระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล
อิสราเอลอ้างว่าจากการสืบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าขีปนาวุธอาจแตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีในเวลาต่อมา ว่ามันเป็นผลจากความพยายามสกัดกั้นและขีปนาวุธไม่ได้ถูกทำลาย
นับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา พวกฮูตีเล็งเป้าหมายเล่นงานอิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ในกาซา ยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกและโดรนอีกจำนวนมาก โจมตีก่อความปั่นป่วนการขนส่งสินค้าผ่านน่านน้ำที่สำคัญนอกชายฝั่งเยเมน
ระหว่างแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ เนื่องในวาระวันคล้ายวันประสูติศาสดามูฮัมหมัด ผู้นำฮูตีบอกว่ากบฏกลุ่มนี้และพันธมิตรทั้งหลายในภูมิภาค เตรียมพร้อมสำหรับดำเนินการมากกว่านี้อีก "ปฏิบัติการของเราจะยังเดินหน้าต่อไป ตราบใดที่ยังคงมีการรุกรานและการปิดล้อมกาซา" เขากล่าว
ในปีกทางเหนือของอิสราเอล ขบวนการเคลื่อนไหวฮิซบอลเลาะห์ซึ่งยิงตอบโต้ข้ามชายแดนกับกองกำลังอิสราเอลเป็นประจำ ได้ดวลปืนข้ามชายแดนกันอีกรอบในวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) เหตุกระทบกระทั่งที่เสี่ยงลุกลามเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ
อิสราเอลโปรยใบปลิวเหนือหมู่บ้านวาซซานี ตามแนวชายแดนของเลบานอน เรียกร้องให้ชาวบ้านหลบหนีออกมา "จนกว่าสงครามกับฮิซบอลเลาะห์จะสิ้นสุด" อย่างไรก็ตามกองทัพบอกกับเอเอฟพีในเวลาต่อมาว่ากำลังพลหน่วยหนึ่งของพวกเขาดำเนินการในเรื่องนี้โดยปราศจากความเห็นชอบใดๆ
นาฮิม กัสเซม รองหัวหน้าฮิซบอลเลาะห์ เตือนในวันเสาร์ (14 ก.ย.) ว่าทางกลุ่มไม่มีเจตนาเข้าสู่สงคราม แต่หากอิสราเอลปลดปล่อยสงคราม "ก็จะมีความสูญเสียมหาศาลใน 2 ฟากฝั่ง"
จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยคนในฝั่งเลบานอน ส่วนใหญ่เป็นนักรบ ขณะที่ในฝั่งของอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน มีทั้งทหารและพลเรือน
ส่วนสถานการณ์ในกาซา ทีมช่วยเหลือและทีมแพทย์เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 15 คน ในปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในหลายจุด ตามพื้นที่ทางภาคกลางและเหนือของฉนวนแห่งนี้ ในวันอาทิตย์ (15 ก.ย.)
ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานพวกฮามาส ได้สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 41,206 ราย ในฉนวนกาซา มันเป็นการแก้แค้นกรณีที่นักรบฮามาสบุกจู่โจมทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน สังหารผู้คนไป 1,205 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และโหมกระพือสงครามจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ พวกนักรบยังได้จับตัวประกันไปราว 251 คน ในนั้น 97 คนยังคงถูกคุมตัวในกาซา แต่กองทัพอิสราเอลเชื่อว่ามีอยู่ 33 รายในนั้นที่เสียชีวิตแล้ว
อุซามะ ฮัมดัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส บอกกับเอเอฟพีว่า ทางกลุ่มมีศักยภาพสูงที่จะเดินหน้าสู้รบต่อไป แม้ประสบความสูญเสียมหาศาล พร้อมกล่าวว่าการโจมตีล่าสุดของฮูตี แสดงให้เห็นว่า อิสราเอลไม่ได้มีระบบคุ้มกันโดยสมบูรณ์ และระบบป้องกันภัยทางอากาศที่คุยนักคุยหนานั้น "ก็มีขีดจำกัด"
(ที่มา : เอเอฟพี)