สมาชิกในรัฐบาลฝรั่งเศส มีความกังวลว่าความขัดแย้งยูเครนอาจลุกลามหลุดจากการควบคุม เข้าสู่สงครามใหญ่ และเวลานี้จำเป็นต้องดำเนินการต่างๆ ด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด ตามรายงานของสำนักข่าวเลอมงด์ สื่อมวลชนแดนน้ำหอมเมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) อ้างอิงแหล่งข่าวด้านการทูต
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีความกังวลหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ว่าการเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะลุกลามบานปลายกลายเป็นการปะทะกันโดยตรงระหว่างมอสโกกับนาโต หลังจากมีรายงานสหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังพิจารณาไฟเขียวให้เคียฟใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
แม้ฝรั่งเศสไม่แถลงจุดยืนอย่างเป็นทางการในประเด็นดังกล่าว แต่แหล่งข่าวด้านการทูตเปิดเผยอย่างลับๆ ยอมรับหนังสือพิมพ์เลอมงด์ ว่าปารีสมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสถานการณ์ลุกลามบานปลาย และกำลังหาทางพยายามหลีกเลี่ยงมัน "เราจำเป็นต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 3" แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามบอกกับสื่อรายนี้
"เราไม่อาจปฏิเสธสมมติฐานที่ว่ารัสเซียอาจขยายขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร" เจ้าหน้าที่ระบุ อ้างถึงเสียงเตือนต่างๆ ของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตือนว่าการปลดข้อจำกัดที่กำหนดกับยูเครนสำหรับใช้อาวุธของตะวันตกโจมตีรัสเซีย จะทำให้วอชิงตันและพันธมิตรอยู่ในความขัดแย้งโดยตรงกับมอสโก และจะเจอกับการตอบโต้อย่างสาสม
ในคำอธิบายท่าทีดังกล่าว ปูตินบอกว่าอาวุธเหล่านั้นต้องพึ่งพิงข่าวกรองของตะวันตกแต่เพียงอย่างเดียวในการกำหนดเป้าหมายต่างๆ ผลก็คือเคียฟไม่สามารถใช้มันได้ด้วยตนเองเพียงลำพัง
จุดยืนดังกล่าวของ ปูติน ถูกเน้นย้ำโดย วาสซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ที่บอกว่าความเคลื่อนไหวอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธตะวันตกโจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย จะเท่ากับเป็นการเปิดสงครามระหว่างนาโตกับรัสเซีย "สหายตะวันตกของเราจะไม่สามารถหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ และโยนบาปให้เคียฟสำหรับทุกๆ อย่างได้อีกต่อไป"
(ที่มา : เลอมงด์/อาร์ทีนิวส์)