วอชิงตันจะไม่อาจหลบซ่อนจากความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ แม้ว่ามันจะเริ่มขึ้นในอีกฟากฝั่งหนึ่งของมหาสมุทร จากคำเตือนของอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอเมริกา
ความเห็นของเขามีขึ้นท่ามกลางความกังวลที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายระหว่างรัสเซียกับนาโต ในวิกฤตยูเครน ซึ่งทวีความร้อนระอุในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานว่า บรรดามหาอำนาจตะวันตก กำลังขบคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเปิดทางให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่จัดหาให้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอสซิยา 24 ชาแนล เมื่อวันศุกร์ (13 ก.ย.) อันโตนอฟ กล่าวว่าเขารู้สึกแปลกใจกับมโนคติลวงตาที่ว่า "หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น มันจะไม่ลุกลามเข้าสู่ดินแดนของสหรัฐอเมริกา"
"ผมพยายามสื่อสารถ่ายทอดไปถึงพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ในข้อสมมติฐานหนึ่งที่ว่า อเมริกาจะไม่อาจนั่งเฉยๆ อยู่วงนอก อยู่ด้านหลังมหาสมุทรนี้ สงครามนี้จะส่งผลกระทบกับเราทุกคน ดังนั้นเราจึงพูดมาตลอดว่า อย่าทำเป็นเล่นกับคำเตือนนี้"
เขาชี้ว่า ในขณะที่บรรดาชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียข่มขู่สำแดงแสนยานุภาพ แต่ในทางกลับกัน สหรัฐฯ กำลังดำเนินการวิจัยตรวจสอบผลลัพธ์ของการโจมตีทางนิวเคลียร์ หากมันเกิดขึ้นในยุโรปตะวันตก ซึ่งดูเหมือนเป็นการอ้างถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมอเมริกา ออกคำสั่งให้ทำการศึกษาเพื่อจำลองผลกระทบของความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ที่มีต่อภาคการเกษตรโลก
อ้างอิงจากประกาศเชิญชวนในแพลตฟอร์มจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลสหรัฐฯ การศึกษาดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ภูมิภาคต่างๆ ไม่ใช่แค่ยุโรปตะวันออกและทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งจะถูกจำลองในฐานะศูนย์กลางตามสมมติฐานของการใช้นิวเคลียร์
ในประกาศไม่เป็นที่ชัดเจนว่าทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีความตั้งใจนำผลการศึกษาไปใช้ในรูปแบบใด อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่การพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสงครามนิวเคลียร์ทวีความเข้มข้นขึ้น ตามหลังความขัดแย้งในยูเครนและความไม่ลงรอยกันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนาโตกับรัสเซีย
พวกผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่าการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียกับกลุ่มพันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯ อาจก่อผลลัพธ์หายนะทางนิวเคลียร์ ขณะที่ข้อมูลจากสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน ระบุว่าวอชิงตันและมอสโก คือ 2 ชาติที่มีคลังแสงปรมาณูใหญ่ที่สุดในโลก มีหัวรบนิวเคลียร์ 5,000 และ 5,500 หัวรบ ตามลำดับ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานเมื่อเดือนที่แล้ว ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเวอร์ชันใหม่ของยุทธศาสตร์ทางนิวเคลียร์ของประเทศ อ้างอิงรายงานของสื่อมวลชนฉบับนี้ ระบุว่าเอกสารดังกล่าวออกคำสั่งให้กองกำลังอเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่ต้องเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์อย่างพร้อมเพรียงกับรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ
รัสเซียส่งเสียงเตือนบ่อยครั้งว่าความเคลื่อนไหวของตะวันตกที่มอบแรงสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน อาจซ้ำเติมสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบันเปลี่ยนมันสู่สงครามโลก และบรรดาสมาชิกรัฐสภารัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ทำการพิจารณาปรับแก้หลักการด้านนิวเคลียร์ของประเทศ เปิดทางสำหรับชิงโจมตีทางนิวเคลียร์ก่อน อย่างไรก็ตาม มอสโกเน้นย้ำว่าสงครามปรมาณูหนึ่งใดไม่ควรเกิดขึ้น
เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เตือนว่าการปลดข้อจำกัดที่กำหนดกับยูเครน สำหรับใช้อาวุธของตะวันตกโจมตีรัสเซีย จะทำให้วอชิงตันและพันธมิตรอยู่ในความขัดแย้งโดยตรงกับมอสโก และจะเจอกับการตอบโต้อย่างสาสม
ทาง วาสซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ เน้นย้ำในเวลาต่อมา ว่าการไฟเขียวให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกจัดหาให้ จะเท่ากับว่านาโตเข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งโดยตรง
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)