ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ว่ามอสโกอาจพิจารณาจำกัดการส่งออกแร่ยูเรเนียม ไทเทเนียม และนิกเกิล เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของพวกชาติตะวันตก
ถ้อยแถลงของผู้นำรัสเซียส่งผลให้ราคานิกเกิลขยับสูงขึ้นทันที ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทเหมืองแร่ยูเรเนียมก็พุ่งสูงตามไปด้วย
ปูติน ระบุด้วยว่า รัสเซียอาจพิจารณาจำกัดการส่งออกสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย พร้อมเปรยว่ารัสเซียคือผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ เพชร และทองคำรายใหญ่ของโลก
อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่ามาตรการเหล่านั้นดังกล่าวยังจะไม่เกิดขึ้น “ในวันพรุ่งนี้” และจะต้องไม่ก่อความเสียหายต่อเศรษฐกิจรัสเซียเอง
“รัสเซียถือเป็นประเทศผู้นำด้านแหล่งสำรองวัตถุดิบทางยุทธศาสตร์หลายอย่าง เช่น ก๊าซธรรมชาติซึ่งเรามีแหล่งสำรองคิดเป็นสัดส่วน 22% ของโลก ทองคำเกือบ 23% ของโลก และเพชรเกือบ 55% ของโลก” ปูติน กล่าว
ผู้นำหมีขาวบอกกับนายกรัฐมนตรี มิคาอิล มีชุสติน ว่า “ขอให้ลองพิจารณาสินค้าประเภทต่างๆ ที่เราส่งออกสู่ตลาดโลก บางทีเราอาจใช้มาตรการจำกัดส่งออกสินค้าบางอย่าง เช่น ยูเรเนียม ไทเทเนียม และนิกเกิล”
“แต่เราต้องไม่ทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนแก่ตัวเอง”
นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้ชาติตะวันตกจะลดการสั่งซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียลงตั้งแต่สงครามยูเครนเริ่มขึ้น แต่มอสโกยังคงเป็นผู้ส่งออกแร่โลหะรายใหญ่ของโลก ฉะนั้นการจำกัดหรือระงับส่งออกย่อมจะก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง
ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้านิกเกิลในตลาด London Metal Exchange (LME) ปรับตัวขึ้น 2.6% ไปอยู่ที่ 16,145 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน หลังจากที่ ปูติน ออกมาพูดได้ไม่นานนัก
รัสเซียยังเป็นที่ตั้งของบริษัท Nornickle ผู้ผลิตนิกเกิลบริสุทธิ์ (refined nickel) รายใหญ่ที่สุดของโลก และถือเป็นซัปพลายเออร์หลักที่ส่งออกนิกเกิลให้จีนและยุโรป
นิกเกิลกว่า 1 ใน 5 ซึ่งเก็บอยู่ภายในโกดังที่จดทะเบียนกับ LME มีแหล่งผลิตในรัสเซีย โดยแร่โลหะชนิดนี้ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ รวมไปถึงโลหะผสมที่ใช้สำหรับทำเกราะและใบพัด เป็นต้น
ที่มา : รอยเตอร์