xs
xsm
sm
md
lg

อยากลองดีเชิญ! ปูตินขู่นาโตเสี่ยงเปิดศึกโดยตรงกับมอสโก หากไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) กล่าวเตือนตะวันตก ว่าการปล่อยให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลที่พวกเขาจัดหาให้ โจมตีเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ภายในดินแดนของประเทศของเขา เท่ากับเป็นการทำให้นาโตเปิดศึกสงครามโดยตรงกับรัสเซีย

เสียงเตือนที่แข็งกร้าวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ได้หารือกันเกี่ยวกับความต้องการของเคียฟ ที่ร้องขอให้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการใช้อาวุธของตะวันตกโจมตีใส่รัสเซีย ในสงครามที่ลากยาวมานานกว่า 2 ปีครึ่ง นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022

ความเคลื่อนไหวนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางคำกล่าวอ้างของมอสโก ที่บอกว่าสามารถทวงคืนดินแดนอย่างกว้างขวางในแคว้นคูร์สก์ ทางตะวันตกของประเทศ หลังจากถูกกองกำลังยูเครนจู่โจมสายฟ้าแลบและรุกคืบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน คำเตือนของ ปูติน ยังมีขึ้นหลังจาก แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สัญญาว่าวอชิงตันจะทบทวนคำร้องที่มีมานานของเคียฟ ที่ขอความคล่องตัวเพิ่มเติมในการใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีเป้าหมายต่างๆ ของรัสเซีย

"มันจะเป็นการเปลี่ยนเส้นทางอย่างมีนัยสำคัญในลักษณะของความขัดแย้ง" ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวรายหนึ่งของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ "มันจะหมายความว่าบรรดาชาตินาโต สหรัฐฯ และเหล่าประเทศยุโรปอยู่ในภาวะสงครามกับรัสเซีย" เขากล่าว "ถ้าเป็นกรณีดังกล่าว เมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนไปของลักษณะความขัดแย้ง เราจะทำการตัดสินใจต่างๆ อย่างเหมาะสม บนพื้นฐานกับภัยคุกคามต่างๆ ที่เราจะเผชิญ"

เคียฟ เปิดฉากรุกรานเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียอย่างไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม รุกคืบเข้าไปในดินแดนของรัสเซียหลายกิโลเมตร และยึดถิ่นพักอาศัยได้หลายสิบแห่ง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนยอมรับว่ากองทัพรัสเซียกำลังดำเนินการตีโต้กลับ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเขียนบนเทเลแกรม ว่า "หน่วยกำลังพลเหนือสามารถปลดปล่อยถิ่นพักอาศัยได้ 10 แห่งใน 2 วัน" ขณะที่ เซเลนสกี ยอมรับระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟว่า "รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีตอบโต้กลับแล้ว"

เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตปฏิบัติการของรัสเซีย แต่เน้นย้ำว่าการรุกราน "ยังคงเป็นไปตามแผนของยูเครน"

ก่อนหน้านี้ โอเล็กซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน เปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ว่าเคียฟสามารถยึดถิ่นพักอาศัย 100 แห่ง และพื้นที่ในดินแดนรัสเซียเกือบ 1,300 ตารางกิโลเมตร

เคียฟบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการผนวกพื้นที่ของรัสเซียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แบบเดียวกับที่มอสโกทำในภาคตะวันออกของยูเครน แต่หวังว่าพวกเขาจะสามารถบีบให้ศัตรูเบี่ยงกองกำลัง และการใช้รุกคืบด้านดินแดนเป็นเบี้ยต่อรองในการเจรจาใดๆ

เคียฟ ต้องการความยืดหยุ่นเพิ่มเติมในการโจมตีลานบินต่างๆ ของรัสเซีย และเป้าหมายทางทหารอื่นๆ ที่อยู่ห่างจากแนวหน้า ที่พวกเขาบอกว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการรุกรานของมอสโก

ปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธของพวกเขา โจมตีเฉพาะเป้าหมายต่างๆ ของรัสเซีย ที่อยู่ในดินแดนยูเครนที่ถูกยึดครอง และบางแคว้นของรัสเซียที่อยู่ตามแนวชายแดน ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการสู้รบของมอสโกโดยตรง

วังเครมลินกล่าวเตือนเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ว่าพวกเขาจะตอบโต้อย่างเหมาะสม หากมีการยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว

คาดหมายว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะทบทวนคำร้องขอของยูเครนในวันศุกร์ (13 ก.ย.) ระหว่างประชุมหารือร่วมกับ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ทำเนียบขาว

ที่ผ่านมา ไบเดน ลังเลที่จะให้ไฟเขียวยูเครน เนื่องจากเกรงว่ามันเสี่ยงจุดชนวนความขัดแย้งโดยตรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ 2 ชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์

(ที่มา : เอเอฟพี)


กำลังโหลดความคิดเห็น