เอพี/เอเอฟพี – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จเยือนสิงคโปร์เป็นจุดสุดท้ายของทัวร์เอเชีย ในวันพฤหัสบดี(12 ก.ย)ทรงชื่นชมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและความสวยงามของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าราวกับผุดมาจากทะเล แต่ทรงร้องขอต่อแรงงานต่างชาติซึ่งเป็นเสมือนฐานรากว่าจำเป็นต้องได้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรมเช่นกัน แดนลอดช่องเผยโฉมกล้วยไม้สายพันธุ์ไฮบริดต่อโลกเป็นครั้งแรกพร้อมตั้งชื่อตามพระนาม
เอพีรายงานวันนี้(12 ก.ย)ว่า สิงคโปร์เฉลิมฉลองการเสด็จเยือนอย่างยิงใหญ่ด้วยการเผยโฉมดอกกล้วยไม้สายพันธุ์ผสมสกุล เดนโดรเบียม(Dendrobium) ด้วยการตั้งตามพระนามของพระองค์ คือ “เดนโดรเบียมสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” (Dendrobium His Holiness Pope Francis) และได้มีการแสดงถวายต่อพระองค์ในวันพฤหัสบดี(12) ในพิธีการถวายการต้อนรับอย่างเป็นทางการ
ซึ่งดอกกล้วยไม้นี้แสดงถึงความสงบและความงามอย่างบริสุทธิ์ของสีขาวงาช้างที่กลีบพร้อมกับสีชมพูจางที่ในใจกลางของดอกไม้ อ้างอิงจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติสิงคโปร์
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเสด็จมาถึงสิงคโปร์จากติมอร์ตะวันออกโดยในวันพฤหัสบดี(12)เป็นวันแรกของการเสด็จเยือนอย่างเป็นทางการ
ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ธาร์มัน ชันมูการัตนัม (Tharman Shanmugaratnam) และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอร์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) ถวายการต้อนรับก่อนพระองค์จะตรัสต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลสิงคโปร์ คณะทูตต่างชาติ ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore)
พระองค์ทรงตรัสชื่นชมต่อความทันสมัยในตึกสูงระฟ้าของสิงคโปร์ และจะมีการประกอบพิธีแมสที่จะถูกจัดขึ้นภายในสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ และจะเสด็จเป็นประธานในงานเยาวชนระหว่างศาสนาเช้าวันศุกร์(13) ก่อนเสด็จกลับไปยังกรุงโรมต่อไป
เอพีชี้ว่ามีหลายสิบคนรอรับเสด็จในเช้าวันนี้(12)ในขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จไปยังรัฐสภาสิงคโปร์ในพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ เสียงเชียร์ 2 ข้างทางดังลั่นในขณะที่ขบวนรถพระที่นั่งวิ่งผ่าน
โป๊ปฟรานซิสตรัสชื่นชมความทันสมัยของอาคารระฟ้าที่งดงามของเมืองที่ไม่ต่างจากมหานครนิวยอร์กหรือกรุงลอนดอนเหล่านั้นว่า “เหมือนราวกับผุดมาจากทะเล” และคำมั่นสัญญาของรัฐบาลสิงคโปร์ในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและได้จัดหาที่พักสาธารณะและการศึกษาที่มีคุณภาพและระบบการดูแลสุขภาพต่อประชาชนของตัวเอง
แต่อย่างก็ตามพระองค์เรียกร้องเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ให้หันมาใส่ใจต่อบรรดาผู้ยากไร้ที่สุดและการตระหนักที่เป็นการอ้างอิงต่อวัฒนธรรมการทำงานที่มีการแข่งขันสูงและวัฒนธรรมทางการศึกษาของสิงคโปร์
เอเอฟพีรายงานว่า พระประมุขแห่งโฮลีซีวัย 87 พรรษาที่เป็นพระองค์แรกที่มาจากแดนละตินอเมริกาตรัสในที่ประชุมว่า สิงคโปร์สมควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในการปกป้องศักดิศรีของกลุ่มแรงงานต่างชาติ
“แรงงานเหล่านี้สร้างคุณประโยชน์อย่างมหันต์ต่อสังคมและสมควรได้รับการให้หลักประกันต่อค่าจ้างที่เป็นธรรม”
เอพีรายงานว่า มีแรงงานต่างชาติรายได้ต่ำจำนวน 300,000 คนอาศัยในสิงคโปร์
ปัจจุบันสิงคโปร์ไม่มีนโยบายกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับพลเมืองสิงคโปร์หรือต่างชาติ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอชเปิดเผยในรายงานปีที่ผ่านมาว่า แรงงานต่างชาติในสิงคโปร์ถูกข่มเหงและเอารัดเอาเปรียบผ่านหนี้ก้อนโตที่ต้องจ่ายให้เอเจนซีจัดหางาน การไม่จ่ายค่าแรง การจำกัดการเดินทาง การยึดพาสปอร์ต และบางครั้งมีการทำร้ายร่างกายและความรุนแรงทางเพศ
ฮิวแมนไรท์วอชระบุว่า แม่บ้านต่างชาติในสิงคโปร์ถูกเว้นจากการปกป้องทางแรงงานสำคัญมากมาย เป็นต้นว่า จำกัดชั่วโมงการทำงานประจำวัน การลาป่วยและวันลาประจำปี
เอเอฟพรายงานว่า สิงคโปร์มีชาวต่างชาติคิดเป็น 1 ใน 3 ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ อ้างอิงตัวเลขทางการพบว่า แรงงานต่างชาติทั้งหมด 1.5 ล้านคนมีแรงงานแม่บ้านต่างชาติถึง 286,000 คน และอีก 441,000 คนอยู่ในภาคการก่อสร้าง ชิปปิ้งท่าเรือ และงานด้านบำรุงรักษา
แรงงานจำนวนมากมาจากปากีสถาน บังกลาเทศ และประเทศอื่นๆที่ยากจนในเอเชีย
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จเยือนสิงคโปร์เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อชาวคาทอลิกที่ติดเป็นสัดส่วน 3.5% ของพลเมืองสิงคโปร์ทั้งหมดต่ำกว่า 6 ล้านคนในประเทศที่มีธรรมเนียมหลายศาสนาอยู่ร่วมกัน
อ้างอิงจากการสำรวจเมื่อปี 2020 พบว่ามีผู้นับถือศาสนาพุทธคิดเป็น 31% ศานาคริสต์ราว 19% ศาสนาอิสลาม 15% ในขณะที่อีก 1 ใน 5 ของประชากรระบุว่าไม่นับถือศาสนาใดๆ