ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุเมื่อวันพุธ (11 ก.ย.) ว่า “แผนแห่งชัยชนะ” (victory plan) ที่เขาเตรียมนำเสนอต่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในเดือนนี้จะทำให้เคียฟมีสถานะที่เข้มแข็งขึ้น และ “ให้ผลในเชิงจิตวิทยา” ที่อาจทำให้รัสเซียยอมยุติสงครามผ่านการเจรจาทางการทูต
ผู้นำยูเครนกล่าวระหว่างการประชุมประจำปี Crimean Platform ที่กรุงเคียฟว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ยูเครนจะต้องเสนอแผนนี้ให้ชาติพันธมิตรรับทราบ ก่อนจะมีการประชุมซัมมิตสันติภาพครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปลายปีนี้
“หากหุ้นส่วนของเราสนับสนุน (แผนนี้) มันก็จะง่ายขึ้นที่ยูเครนจะบีบให้รัสเซียต้องยุติสงคราม” เซเลนสกี กล่าว
“แผนนี้จะให้ผลอย่างไรบ้าง? มันจะช่วยให้สถานะของยูเครนเข้มแข็งขึ้น และในมุมมองของผมก็จะให้ผลทั้งในเชิงจิตวิทยาและการเมือง... ต่อการตัดสินใจของรัสเซียที่จะยุติสงคราม”
เซเลนสกี เริ่มเอ่ยถึง “แผนแห่งชัยชนะ” เป็นครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค. โดยระบุว่าต้องการนำแผนนี้ไปหารือกับ ไบเดน รวมถึงผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้ง 2 คนด้วย
ผู้นำยูเครนมีแผนเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในเดือนนี้
ความเคลื่อนไหวของ เซเลนสกี มีขึ้นในขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ โดยกองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบยึดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เคียฟเองก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกข้ามไปโจมตีแคว้นคูสก์ (Kursk) ของรัสเซีย และยังคงยึดครองพื้นที่เอาไว้มาตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.
ยูเครนเรียกร้องให้มีการจัดประชุมซัมมิตสันติภาพรอบ 2 เพื่อผลักดันวิสัยทัศน์ในการยุติสงครามของเซเลนสกี โดยในครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือน มิ.ย. นั้นแม้จะมีผู้แทนจากหลายสิบประเทศเข้าร่วม แต่รัสเซียกลับไม่ได้รับเชิญ ขณะที่ “จีน” ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่มีอิทธิพลต่อรองกับมอสโกก็เพิกเฉยไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมเช่นกัน
เคียฟยืนยันว่า ครั้งนี้พวกเขาต้องการให้รัสเซียเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องจากประเทศในกลุ่ม Global South ที่อยากจะเห็นคู่สงครามทั้ง 2 ฝ่ายร่วมประชุม ขณะที่มอสโกประกาศกร้าวว่าจะ “ไม่เจรจา” ตราบใดที่ยังคงมีทหารยูเครนอยู่บนแผ่นดินรัสเซีย
ที่มา : รอยเตอร์