โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกา ขู่ว่าประเทศใดก็ตามที่ละทิ้งดอลลาร์สหรัฐ จะต้องชดใช้ราคาแพงจากการเดินตามนโยบายดังกล่าว พร้อมระบุชาติเหล่านั้นจะเผชิญกับการรีดภาษีนำเข้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับการหาทางค้าขายโดยไม่พึ่งพิงสกุลเงินดอลลาร์อีกต่อไป
ระหว่างปราศรัยหาเสียงกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ เวทีที่รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันเสาร์ (7 ก.ย.) อดีตประธานาธิบดีอเมริการายงาน ประกาศกร้าวว่าจะรักษาสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก พร้อมเน้นว่าดอลลาร์กำลังถูกล้อมกรอบโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากมีประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้นที่หันไปหาหนทางอื่นๆ ในการชำระทางการค้า
"คุณละทิ้งดอลลาร์ แต่คุณจะไม่สามารถทำธุรกิจกับสหรัฐฯ เพราะว่าเราจะรีดภาษีสินค้าของคุณในระดับ 100%" ทรัมป์กล่าว
แนวโน้มของการใช้สกุลเงินท้องถิ่นแทนดอลลาร์มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามหลังสหรัฐฯ และพันธมิตรกำหนดข้อจำกัดทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่เล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีที่มอสโกรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
หลังโดนตัดขาดจากระบบการเงินของตะวันตก ทางรัสเซียได้หันไปใช้ทางเลือกอื่นๆ ในการชำระเงิน และจากนั้นคู่หูต่างชาติของมอสโกบางส่วนก็ทำตาม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียยืนยันว่า รัสเซียไม่ได้เสาะหานโยบายลดพึ่งพิงดอลลาร์ แต่ถูกบีบให้มองหาทางเลือกอื่นๆ หลังโดนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในนั้นรวมถึงตัดขาดธนาคารกลางรัสเซียออกจากการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดอลลาร์ แบนการโอนธนบัตรสหรัฐฯ มายังรัสเซีย และอายัดทุนสำรองระหว่างประเทศ
อ้างอิงคำกล่าวอ้างของปูติน เวลานี้รัสเซียและพันธมิตรในกลุ่ม BRICS กำลังใช้สกุลเงินท้องถิ่น คิดเป็นสัดส่วน 65% ของการชำระเงินทางการค้าระหว่างกัน
ขณะที่บรรดาสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีแผนหารือกันในการเปลี่ยนสู่การชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่นแทนดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน และปอนด์
เมื่อนำจีดีพีของกลุ่มเศรษฐกิจนี้มารวมกัน ซึ่งในนั้นประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าราว 4 ล้านล้านดอลลาร์
คำขู่ของทรัมป์ มีขึ้นแม้ว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเพิ่งประกาศว่าวอชิงตันจะลดการใช้มาตรการคว่ำบาตรลงอย่างมาก หากเขาได้รับเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน โดยระหว่างกล่าวบรรยาย ณ องค์กรเอ็นจีโอ "ดิอีโคโนมิค คลับ ออฟ นิวยอร์ก" ทรัมป์ ยอมรับว่าการกำหนดข้อจำกัดต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่เล่นงานประเทศอื่นๆ กำลังสร้างความเสียหายแก่ดอลลาร์
(ที่มา : ดิอีโคโนมิคไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)