ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงมากกว่า 2.5 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 เมื่อวันอังคาร (10 ก.ย.) หลังโอเปกปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ในปีนี้ ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำขยับขึ้น จับตาความเคลื่อนไหวของเฟด ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อวันอังคาร (10 ก.ย.) โอเปก ระบุในรายงานประจำเดือน บอกว่าอุปสงค์น้ำมันโลกน่าจะเพิ่มขึ้น 2.03 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2024 ถือเป็นการปรับลดประมาณการจากเดือนที่แล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันโลก จะเติบโต 2.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ โอเปกยังปรับลดการเติบโตของอุปสงค์พลังงานโลกในปี 2025 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 1.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลกดิ่งลงจากแนวโน้มอุปสงค์โลกอ่อนแอและความคาดหมายว่าอุปทานจะล้นตลาด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันอังคาร (10 ก.ย.) หลังอเมริกาเผยแพร่ข้อมูลการจ้างงานอันน่าผิดหวังเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ย.) ที่รื้อฟื้นความกังวลว่าธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) อาจรอนานจนเกินไป ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ ลดลง 92.63 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 40,736.96 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.47 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,495.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 141.28 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,025.88 จุด
นอกจากนี้ ในวันอังคาร (10 ก.ย.) นักลงทุนยังจับตาไปที่การเมืองของสหรัฐฯ ก่อนหน้าถึงกำหนดการศึกดีเบตระหว่างคู่แข่งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกา กมลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเฝ้ามองไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (11 ก.ย.) ซึ่งจะให้เงื่อนงำเกี่ยวกับแนวโน้มในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
เฟดถูกคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะปรับลดดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมในสัปดาห์หน้า แต่ยังคงมีประเด็นโต้เถียงกันว่าทางคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินจะปรับลดดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหน 0.25% หรือ 0.50%
ท่าทีระมัดระวังดังกล่าวของนักลงทุนส่งผลให้ราคาทองคำในวันอังคาร (10 ก.ย.) ทรงตัวอยู่ในระดับเหนือ 2,500 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 10.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,543.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)