ทำเนียบเครมลินเมื่อวันจันทร์ (9 ก.ย.) ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธข่าวอิหร่านส่งขีปนาวุธให้ บอกแค่เตหะรานเป็นหุ้นส่วนของรัสเซียและสองประเทศกำลังพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน ขณะที่โรมาเนียกับลัตเวีย 2 ชาติสมาชิกองค์การนาโตโวยลั่นว่าถูกโดรนแดนหมีขาวล่วงล้ำน่านฟ้า สำหรับสถานการณ์การสู้รบ มอสโกคุยว่ายึดชุมชนได้เพิ่มขึ้นอีก และยิ่งขยับเข้าใกล้เมืองโปครอฟสก์ ฮับคมนาคมขนส่งสำคัญมากในภาคตะวันออกยูเครน
รัสเซียได้ยกระดับการโจมตีทางอากาศในยูเครนหนักขึ้นช่วงไม่กี่สัปดาห์มที่ผ่านมา ขณะที่กองทหารยูเครนซึ่งบุกข้ามแดนเข้าไปในแคว้นคูร์สก์ ทางภาคตะวันตกของรัสเซีย ยังคงอยู่ที่นั่นโดยที่กำลังกองทหารระดับท้องถิ่นของแดนหมีขาว ยังไม่สามารถผลักดันให้ถอยออกไปได้
เคียฟวาดหวังว่า ปฏิบัติการบุกแคว้นคูร์สก์ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. จะบีบให้รัสเซียต้องถอนกำลังจากภาคตะวันออกของยูเครนกลับไปปกป้องดินแดนของตัวเอง แต่ดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จ โดยมอสโกกลับเน้นหนักรุกโจมตีภูมิภาคดอนบาส ซึ่งหมายถึงดินแดนแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน อย่างดุเดือดยิ่งขึ้น โดยที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังอวดอ้างว่า ปฏิบัติการโจมตีแคว้นคูร์สก์ของเคียฟ ทำให้เป้าหมายของรัสเซียในการยึดดอนบาสง่ายดายขึ้น
ในวันจันทร์ รัสเซียอ้างว่าสามารถยึดหมู่บ้านเมมริค ซึ่งอยู่ห่างราว 20 กิโลเมตรจากเมืองโปครอฟสก์ เอาไว้ได้ หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ เพิ่งยึดชุมชนโนโวฮโรดิฟกา ที่อยู่ห่างโปครอฟสก์ราว 12 กิโลเมตร
เวลานี้แดนหมีขาวเน้นหนักที่การเข้าตีโปครอฟสก์ ซึ่งเป็นฮับคมนาคมสำคัญ และเห็นกันว่าถ้ายูเครนสูญเสียเมืองนี้ ก็มีหวังต้องสูญเสียดินแดนที่ยังเหลือทั้งหมดอยู่ในแคว้นโดเนตสก์
ในอีกด้านหนึ่ง ลัตเวีย และโรมาเนีย ซึ่งต่างเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ต่างออกมาประณามรัสเซียว่า โดรนที่แดนหมีขาวส่งออกไปโจมตียูเครนนั้น มีการล่วงล้าน่านฟ้าของประเทศทั้งสอง
ประธานาธิบดีเอ็ดการ์ส รินเควิกส์ ของลัตเวีย ทวิตบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า มีโดรนทางทหารของรัสเซีย ตกลงมาทางตะวันออกของลัตเวียเมื่อวันเสาร์ (7 ก.ย.) และรัฐบาลกำลังสอบสวนเรื่องนี้
ขณะที่โรมาเนียแถลงว่า โดรนโจมตีของรัสเซียที่เล็งเป้าหมายโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลเรือนในยูเครน ได้รุกล้ำน่านฟ้าเมื่อคืนวันเสาร์
ด้าน อันดรู เยอร์แมค หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน โพสต์บนเทเลแกรมเรียกร้องให้นาโตตอบโต้รัสเซียที่ส่งโดรนชาเฮดของอิหร่านรุกล้ำน่านฟ้าประเทศยุโรปอย่างเสรี ด้วยการยิงโดรนเหล่านั้น
ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้เรียกร้องอีกครั้งให้พันธมิตรอนุญาตให้ใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีในดินแดนรัสเซีย โดยผู้นำยูเครนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า แค่สัปดาห์เดียว รัสเซียใช้ระเบิดนำวิถี 800 ลูก โดรนชาเฮดเกือบ 300 ลำ และขีปนาวุธประเภทต่างๆ อีกกว่า 60 ลูกโจมตีพลเมืองยูเครน
โพสต์ดังกล่าวสำทับว่า วิธีเดียวที่จะหยุดยั้งการก่อการร้ายนี้ได้คือ การโจมตีสนามบินทหาร ฐานทัพ และเครือข่ายส่งกำลังบำรุงของรัสเซีย
ต่อมาในวันจันทร์ (9) กองทัพอากาศยูเครนแถลงว่า ทำลายโดรน 6 จาก 8 ลำ และขีปนาวุธ 2 ใน 3 ลูกที่รัสเซียส่งเข้าไปโจมตี 4 แคว้นที่รวมถึงเคียฟ และดนิโปรเปตรอฟสก์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ขณะที่กระทรวงพลังงานเผยว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าใน 7 แคว้นในรอบ 24 ชั่วโมง
ส่วนที่มอสโกวันจันทร์ ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับรายงานจากสื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัล และซีเอ็นเอ็น ของอเมริกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วที่ว่า อิหร่านส่งขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ให้รัสเซีย โดยเปสคอฟบอกว่าได้เห็นรายงานดังกล่าวแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด
เปสคอฟเสริมว่า อิหร่านเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของรัสเซีย และสองประเทศกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจ รวมทั้งความร่วมมือและการหารือในทุกด้านที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงประเด็นที่อ่อนไหวที่สุด
วันเดียวกันนั้น ฟาซลูลเลาะห์ โนซารี ผู้บัญชาการระดับอาวุโสคนหนึ่งของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ปฏิเสธรายงานของสื่ออเมริกัน โดยบอกว่า อิหร่านไม่ได้ส่งขีปนาวุธใดๆ ไปให้รัสเซีย และการกล่าวอ้างเช่นนี้เป็นเพียงการทำสงครามจิตวิทยา นอกจากนั้น เขาย้ำว่า อิหร่านไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใดทั้งนั้นในการสู้รบขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี)