เมืองหลวงของอิหร่านอาจถูกย้ายไปยังเมืองแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับแนวชายฝั่งทางใต้ของประเทศ สืบเนื่องจากกรุงเตหะราน ถูกรุมเร้าไปด้วยปัญหาต่างๆ จากการเปิดเผยของประธานาธิบดี มาซูด เปเซชเคียน
ในถ้อยแถลงเมื่อวันเสาร์ (7 ก.ย.) ปาเซชเคียน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ว่าเป็นเรื่องไร้ความหมายหากยังคงเดินหน้าพัฒนาเตหะรานต่อไป สืบเนื่องจากความยากลำบากต่างๆ ที่เหมืองแห่งนี้ต้องเผชิญ
เขากล่าวว่าเมืองหลวงในปัจจุบันถูกรุมเร้าจากปัญหาขาดแคลนน้ำ การทรุดตัวของดินและมลพิษทางอากาศ เช่นเดียวกับปัญหาอื่นๆ ตามรายงานของสำนักข่าวจาวาน ออนไลน์
"กรุงเตหะรานในฐานะเมืองหลวงของประเทศ กำลังเผชิญปัญหาต่างๆ ซึ่งเราไม่มีทางออก" ประธานาธิบดียอมรับ บ่งชี้ว่าหนทางที่ดีที่สุดคือการย้ายศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ
เปเซชเคียน ชี้ว่าการแค่บอกให้พวกชาวบ้านย้ายออกจากกรุงเตหะรานคงจะไม่ได้ผล และรัฐบาลต้องเป็นผู้ดำเนินการเป็นลำดับแรก เพื่อที่ประชาชนจะได้ทำตาม
นอกจากนี้ มันยังมีเหตุผลทางเศรษฐกิจต่างๆ สำหรับการหาเมืองหลวงแห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กับอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าอันสำคัญ "การพัฒนาประเทศเพิ่มเติมคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยการเดินหน้าไปตามแนวโน้มในปัจจุบัน ที่เราดึงทรัพยากรมาจากทางใต้ของประเทศ และดึงทรัพยากรจากท้องทะเลมายังศูนย์กลาง เปลี่ยนมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่นี่ แล้วส่งมันกลับไปยังทางใต้เพื่อส่งออก" ประธานาธิบดีกล่าวอ้าง
ผู้นำอิหร่านบอกต่ออีกว่า "ด้วยสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจดังกล่าว ทั้งการเสื่อมค่าและลดทอนศักยภาพในการแข่งขันของเราอย่างรุนแรง ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ย้ายศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไปทางใต้และใกล้กับทะเล"
อย่างไรก็ตาม โกลัมฮัสเซน คาร์บาสชี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเตหะราน ในทศวรรษ 1990 โต้แย้งแนวคิดของปาเซชเคียน อ้างว่าไม่พบเห็นตัวแทนที่เหมาะสมเท่าเตหะราน "แล้วคุณอยากย้ายไปที่ไหน" เขากล่าว พร้อมตือนว่าบางประเทศที่ก่อนหน้านี้เคยตัดสินใจย้ายเมืองหลวง ต้องลงเอยด้วยการสูญเสียเงินและได้เมือง 2 แห่งที่เต็มไปด้วยปัญหามาแทน จากเดิมแค่แห่งเดียว
เตหะรานซึ่งเป็นเมืองหลวงของอิหร่านมาตั้งแต่ปี 1786 ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศ ห่างจากทะเลแคสเปียนราว 100 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้มีประชากร 9.4 ล้านคน รวมแล้วเป็นเกือบ 17 ล้านคนในเขตมหานคร ส่งผลให้เตหะรานเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของอิหร่านและเอเชียตะวันตก และเป็นเขตมหาครใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในตะวันออกกลาง เป็นรองเพียงกรุงไคโรของอียิปต์
ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเจ้าหน้าที่อิหร่านบ่งชี้ถึงการย้ายเมืองหลวงออกจากกรุงเตหะราน โดยข้อเสนอแบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นระหว่างการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ระหว่างปี 2005 ถึง 2013 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว รัฐสภาได้จัดตั้งสภาพิเศษเพื่อเสาะหาเมืองหลวงทดแทน อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการย้ายเมืองหลวงไม่เคยเกิดขึ้นใดๆ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)