ชายชราคนหนึ่งในจีนเสียชีวิตลงในเวลาเพียง 13 วัน หลังถูกคลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่งถอนฟัน 23 ซี่ และปลูกถ่ายฟันใหม่อีก 12 ซี่ภายในวันเดียวกัน
รายงานข่าวระบุว่า น.ส.ชู (Shu) ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหย่งคัง มณฑลเจ้อเจียง ได้ไปร้องเรียนต่อสำนักงานสาธารณสุขประจำเทศบาล เพื่อเอาผิดกับคลินิกทันตกรรมที่เธออ้างว่าเป็นต้นเหตุทำให้บิดาเสียชีวิต
หญิงคนนี้นำหลักฐานไปให้เจ้าหน้าที่ดูว่า พ่อของเธอถูกถอนฟัน 23 ซี่ และปลูกถ่ายฟันอีก 12 ซี่ในวันเดียวกัน ซึ่งเธอเชื่อว่าความเจ็บปวดจากกระบวนการนี้ทำให้พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในวันที่ 28 ส.ค. หรือเพียง 13 วันหลังจากที่ไปทำฟันมา
จากเอกสารยินยอมของคนไข้พบว่า พ่อของ น.ส.ชู มีการถอนฟัน 23 ซี่ และถูกเจาะรู 12 รูลงไปในกะโหลกศีรษะเพื่อทำการปลูกถ่ายฟัน และทั้งหมดนี้ถูกทำเสร็จภายในวันเดียว ซึ่งก็หมายความว่าชายคนนี้จะต้องเผชิญความเจ็บปวดรุนแรงหลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ลง
แม้จำนวนฟันที่ถอนและปลูกถ่ายจะดูมากเกินกว่าที่ร่างกายคนจะรับไหว แต่ผู้แทนของคลินิกยืนยันว่า ขั้นตอนทั้งหมดผ่านการปรึกษาหารือกับแพทย์แบบตัวต่อตัว และได้มีการพิจารณาถึงสภาพร่างกายของคนไข้แล้ว
จากบันทึกเวชระเบียนของคลินิกทันตกรรม Dewei Dental Hospital พบว่า การผ่าตัดถอนฟันและปลูกถ่ายฟันครั้งนี้ถูกดำเนินการโดยทันตแพทย์แซ่หยวน (Yuan) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการรักษารากฟัน ผ่าฟันคุด และการทำฟันปลอมทั้งปาก
แม้กฎหมายจะไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่าแพทย์สามารถถอนฟันคนไข้ได้ครั้งละไม่เกินกี่ซี่ แต่ทางคลินิกและแพทย์มีหน้าที่ต้องพิจารณาถึงความสามารถของคนไข้ในการอดทนต่อความเจ็บปวด รวมถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อด้วย
“ยิ่งถอนฟันจำนวนมากเท่าไหร่ การตอบสนองต่อความเจ็บปวดของคนไข้ก็จะมากขึ้น และความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังถอนฟันก็มากขึ้นด้วย” เซียง กั๋วหลิน ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์ช่องปากประจำโรงพยาบาล Wuhan Fourth Hospital ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Paper
แม้กระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขประจำเทศบาลยอมรับกับสื่อมวลชนว่าการจะพิสูจน์ยืนยันเพื่อเอาผิดกับทางคลินิกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากชายคนนี้เสียชีวิตหลังจากที่ไปทำฟันมาแล้วถึง 13 วัน
ที่มา : odditycentral