ประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี ออกมาเรียกร้องวานนี้ (7 ก.ย.) ให้บรรดาชาติมุสลิมรวมตัวจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อร่วมกันต่อต้าน “ภัยคุกคามจากลัทธิการแผ่ขยาย (expansionism)” ของอิสราเอล ในความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงประณามทันควันจากรัฐมนตรีต่างประเทศยิว
คำพูดดังกล่าวของ แอร์โดอัน มีขึ้น หลังจากที่เจ้าตัวได้อ้างถึงกรณีหญิงชาวตุรกี-อเมริกันคนหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่ฝั่งตุรกีและปาเลสไตน์อ้างว่าถูกทหารอิสราเอลยิงเสียชีวิต ระหว่างเข้าร่วมชุมนุมประท้วงการขยายถิ่นฐานชาวยิวที่เขตเวสต์แบงก์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6)
“หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งความอหังการของอิสราเอล พฤติกรรมเยี่ยงโจรของอิสราเอล และการก่อการร้ายโดยรัฐบาลอิสราเอล ก็คือการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรอิสลามขึ้นมา” ผู้นำตุรกีกล่าวในงานอีเวนต์ของสมาคมโรงเรียนอิสลามใกล้ๆ นครอิสตันบูล
แอร์โดอัน ยังบอกด้วยว่า การที่รัฐบาลของเขาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอียิปต์และซีเรียก็เพราะหวังที่จะ “สร้างความเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากลัทธิการแผ่ขยาย” ซึ่งเขาชี้ว่ายังเป็นอันตรายต่อเลบานอนและซีเรียด้วย
อิสราเอล คัตซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ออกมาวิจารณ์คำพูดของประธานาธิบดีตุรกีว่า “เป็นคำโกหกหลอกลวงที่อันตรายและยั่วยุ” พร้อมชี้ว่า แอร์โดอัน เพียรพยายามมานานหลายปีที่จะบ่อนทำลายความเข้มแข็งของรัฐบาลสายกลางในโลกอาหรับ
แอร์โดอัน ได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี แห่งอียิปต์ที่กรุงอังการาในสัปดาห์นี้ โดยทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับสงครามในกาซา และแนวทางที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ถูกแช่แข็งมานาน โดยถือเป็นการเยี่ยมเยือนกันของผู้นำทั้งสองครั้งแรกในรอบ 12 ปี
ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและอียิปต์เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2020 หลังจากที่ตุรกีเริ่มใช้ความพยายามทางการทูตผ่อนคลายความตึงเครียดกับประเทศคู่ขัดแย้งในภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และซาอุดีอาระเบีย
แอร์โดอัน เคยกล่าวไว้เมื่อเดือน ก.ค. ว่า เขาอยากจะเชิญประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียมาเยือนตุรกี “เมื่อใดก็ได้ที่สะดวก” เพื่อหารือเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เพื่อนบ้านที่ตัดขาดกันไปในปี 2011 ภายหลังสงครามกลางเมืองซีเรียปะทุขึ้น
กองทัพอิสราเอลแถลงตามหลังเหตุการณ์ในวันศุกร์ (6) ว่ากำลังเร่งตรวจสอบกรณีที่มีพลเมืองหญิงต่างชาติ “ถูกสังหารจากการยิงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยรายละเอียดของสถานการณ์นั้นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ”
ด้านสำนักงานของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ยังคงไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
ที่มา : รอยเตอร์