xs
xsm
sm
md
lg

อีวีกระแสตก! วอลโว่ล้มแผนขายเฉพาะรถไฟฟ้า หันหน้าสู่ยานยนต์ไฮบริด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วอลโว่ ผู้รถยนต์ชื่อดังละทิ้งแผนผลิตรถไฟฟ้าล้วนแต่เพียงอย่างเดียวในปี 2023 พร้อมบอกว่าเวลานี้ทางบริษัทคาดหมายว่าจะวางจำหน่ายยานยนต์ไฮบริดแทนเป็นบางรุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์แห่งนี้กล่าวโทษสภาพการณ์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับการตัดสินใจละทิ้งเป้าหมายที่พวกเขาเพิ่งแถลงออกมาเมื่อ 3 ปีก่อน

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องเผชิญกับภาวะอุปสงค์รถไฟฟ้า (อีวี) ชะลอตัว ในตลาดหลักๆ บางแห่ง และความไม่แน่นอนสืบเนื่องจากการรีดภาษีรถยนต์อีวีที่ผลิตในจีน

วอลโว่ ซึ่งปกติแล้วมักโอ้อวดเกี่ยวกับนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุด ต่อจากบรรดาค่ายรถยนต์รายใหญ่อื่นๆ อย่างเช่น เจนเนอรัล มอเตอร์ส และฟอร์ด ที่กลับลำในความทะเยอทะยานเกี่ยวกับรถอีวี

เวลานี้ วอลโว่คาดหมายว่าในกำลังผลิตทั้งหมดของพวกเขา 90% จะเป็นรถไฟฟ้าล้วนและรถไฮบริดปลั๊กอิน ภายในปี 2030

นอกจากนี้ บริษัทสัญชาติสวีเดนแห่งนี้อาจขายรถยนต์ที่เรียกว่ารถไฮบริดแบบอ่อน (mild hybrid) จำนวนเล็กๆ ทั้งนี้ Mild hybrid เป็นรถยนต์ไฮบริดที่ระบบเครื่องยนต์จะทำงานคล้ายกับ Full hybrid แต่ Mild hybrid จะใช้แหล่งพลังงานทำงานแยกจากกันไม่ได้ อีกทั้งตัวมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีขนาดเล็กและเสริมกำลังในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์เท่านั้น

"การเปลี่ยนผ่านจะไม่เป็นไปในแบบเส้นตรง" จิม โรแวน ซีอีโอของวอลโว่กล่าว "เรามุ่งมั่นในความเชื่อที่ว่าอนาคตของเราคือไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่เป็นไปแบบเส้นตรง และผู้บริโภคและตลาดกำลังมุ่งไปในความเร็วที่แตกต่างกัน"

บริษัทแห่งนี้ยังบอกด้วยว่าบรรยากาศทางธุรกิจสำหรับรถอีวีได้เปลี่ยนแปลงแล้ว สืบเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟที่ล่าช้า และการยกเลิกมาตรการจูงใจผู้บริโภค

แอนนา แม็คโดนัลด์ นักวิเคราะห์อิสระ ระบุว่าผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับการหันไปใช้ยานยนต์อีวี "มาตรการอุดหนุนบางอย่างที่รัฐบาลชาติต่างๆ กำหนดออกมาเพื่อกระตุ้นการซื้อรถไฟฟ้าได้หมดลงแล้ว นอกจากนี้ อุปสงค์กำลังอ่อนแอลง สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชาร์จไฟ" เธอบอกกับบีบีซี

"ยังมีประเด็นอื่นๆ อีก อย่างเช่นในกรณีที่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงแพงกว่า ขณะเดียวกันอียูและสหรัฐฯ กำลังกำหนดมาตรการภาษีเล่นงานรถยนต์นำเข้าจากจีน เพื่อหยุดการไหลบ่าเข้าท่วมตลาด นั่นหมายความว่าจำเป็นต้องมีการผลิตรถยนต์นอกประเทศจีน ซึ่งมีราคาแพงกว่าด้วยตัวมันเอง บรรดาผู้ผลิตรถยนต์คงไม่กระตือรือร้น เริ่มต้นด้วยการขาดทุนกับรถยนต์เหล่านี้"

ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป พบว่าจำนวนรถยนต์อีวีที่จดทะเบียนทั่วสหภาพยุโรปลดลงเกือบ 11% ในเดือนกรกฎาคม

วอลโว่ มี Geely แบรนด์รถยนต์จีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และสืบเนื่องจากพวกเขาใช้โรงงานผลิตในจีน ดังนั้นบริษัทแห่งนี้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานรถอีวีที่ผลิตในจีน ทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แคนาดาแถลงว่ากำหนดมาตรการรีดภาษี 100% กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน แบบเดียวกับที่แถลงโดยสหรัฐฯ และอียูก่อนหน้านี้ ในขณะที่พวกชาติตะวันตกกล่าวหาจีนอุดหนุนอุตสาหกรรมอีวี ทำให้รถยนต์ของบรรดาผู้ผลิตสัญชาติจีนมีความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม

จีนปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว และวิพากษ์วิจารณ์มาตรการรีดภาษีว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

ฟอร์ด กำลังถอยหลังกลับในความทะเยอทะยานเกี่ยวกับรถอีวีเช่นกัน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ค่ายรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ แห่งนี้ เพิ่งยกเลิกแผนงานเกี่ยวกับรถเอสยูวี 3 แถวขนาดใหญ่ที่ใช้ไฟฟ้าล้วน รวมถึงเลื่อนแผนเปิดตัวรถยนต์กระบะไฟฟ้าล้วนรุ่นถัดไป ส่วนเจนเนอรัล มอเตอร์ส ก็ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถอีวีในปีที่แล้ว

(ที่มา : บีบีซี)


กำลังโหลดความคิดเห็น