xs
xsm
sm
md
lg

คำชม? ปูตินบอกอยากให้ กมลา แฮร์ริส ที่ ‘หัวเราะอร่อย’ ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ พร้อมกับเย้ยเคียฟบุกรัสเซียแต่กลับเสียท่าถูกรุกหนักที่ดอนบาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปูตินพูดประชด อยากให้ กมลา แฮร์ริส ชนะได้เป็นประธานาธิบดีอเมริกา เพราะชอบการหัวเราะที่ “ทำให้ขำตาม” ประมุขทำเนียบเครมลินยังเยาะเย้ยยูเครนว่าแพ้ภัยตัวเอง จากการส่งทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีบุกเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ ซึ่งแทนที่จะทำให้รัสเซียละล้าละลังและต้องโยกทหารกลับไปป้องกัน กลับกลายเป็นว่า แนวป้องกันในภาคตะวันออกของเคียฟเองอ่อนแอลง และทัพหมีขาวสามารถบุกตะลุยยึดดินแดนในภูมิภาคดอนบาสรวดเร็วขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขัน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เคยพูดเอาไว้ตอนต้นปีนี้ว่า เขาอยากให้ ไบเดน ชนะเลือกตั้งอีกสมัยหนึ่งมากกว่า ทรัมป์ เนื่องจากไบเดนเป็นนักการเมือง “สายดั้งเดิม” ที่สามารถคาดเดาทำนายได้มากกว่า ถึงแม้ความคิดเห็นเช่นนี้ของผู้นำหมีขาว ก็ถูกมองกันอย่างกว้างขวางเช่นกันว่า ไม่ใช่เป็นการพูดแบบจริงใจ

ทั้งนี้ พวกหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า แท้จริงแล้วมอสโกต้องการให้ทรัมป์เป็นผู้ชนะ เพราะเขามีความมุ่งมั่นผูกพันน้อยกว่านักหนาในการสนับสนุนยูเครนในสงครามต่อสู้กับรัสเซีย

ในช่วงถาม-ตอบ ภายหลังจากปูตินกล่าวปราศรัยในงานประชุมประจำปี อีสเทิร์น อิโคโนมิก ฟอรัม ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองวลาดิวอสต็อก ทางภาคตะวันออกไกลของแดนหมีขาว วันพฤหัสบดี (5 ก.ย.) เมื่อถูกผู้ดำเนินรายการสอบถามว่ามาถึงตอนนี้เขามีความคิดเห็นกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ อย่างไร ปูตินก็ตอบว่า นั่นเป็นสิ่งที่คนอเมริกันต้องเลือก แต่จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า เนื่องจากไบเดนได้รับรองแนะนำพวกผู้สนับสนุนของเขาให้หนุนหลังแฮร์ริส “เราก็จะทำอย่างเดียวกัน เราจะสนับสนุนเธอ”

ทั้ง ปูติน และผู้ดำเนินรายการต่างพากันยิ้มกริ่มขณะที่เขาแสดงความเห็นเช่นนี้ ซึ่งเรียกเสียงปรบมือดังสนั่นจากผู้ชม

ปูตินยังขยายความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับ แฮร์ริส โดยบอกว่า ““เธอหัวเราะเปิดเผยดีและชวนให้คนขำตาม นั่นหมายความว่า เธอพอใจกับทุกอย่าง”

เขาหยอดมุกต่อไปว่า นี่อาจหมายความว่าเธอจะงดเว้นไม่ดำเนินการแซงก์ชันรัสเซียต่อไปอีก พร้อมกับบอกว่า ทรัมป์ตอนที่เป็นประธานาธิบดี ได้ประกาศแซงก์ชันรัสเซียมากยิ่งกว่าผู้นำทำเนียบขาวทุกๆ คนก่อนหน้าเขา

“ในท้ายที่สุดแล้ว การเลือกอย่างไรก็ต้องขึ้นกับประชาชนอเมริกัน และเราก็จะเคารพการเลือกดังกล่าว” ผู้นำทำเนียบเครมลินสรุป

การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ของปูติน มีขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธ (4) กระทรวงยุติธรรมอเมริกาแถลงว่า ได้ยื่นฟ้องร้องผู้บริหาร 2 คนของเครือข่ายข่าวอาร์ที ของทางการรัสเซีย โดยกล่าวหาว่า พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง

บรรยายกาศในวาระหนึ่งของการประชุม อีสเทิร์น อิโคโนมิก ฟอรัม เมื่อวันพฤหัสบดี (5 ก.ย.) ซึ่งผู้เข้าร่วมอภิปรายบนเวที ประกอบด้วย (จากซ้าย) รองประธานาธิบดีหาน เจิ้ง ของจีน, ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย, นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบรอฮิม ของมาเลเซีย, และผู้ดำเนินรายการ อเล็กซานดรา ซูโวโรวา
ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบขัดแย้งกับยูเครน โดยบอกว่า การที่เคียฟยกพลบุกแคว้นคูร์สก์ ทางตอนใต้ของรัสเซียนั้น ไม่อาจหยุดยั้งกองกำลังรัสเซียที่กำลังรุกคืบหน้าในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งหมายถึงแคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน และสถานการณ์กลับเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคียฟมุ่งหวัง

ปูตินแจงว่า การส่งหน่วยทหารที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจำนวนมากรุกล้ำเข้าสู่รัสเซีย ส่งผลให้แนวป้องกันของยูเครนเองอ่อนแอลง และเปิดช่องให้รัสเซียรุกคืบในดินแดนด้านตะวันออกของยูเครนเร็วขึ้น แทนที่จะทำให้รัสเซียบังเกิดความละล้าละลังและยุติปฏิบัติการในพื้นที่สำคัญบางแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในดอนบาสอย่างที่เคียฟวางแผนไว้

ปูตินสำทับว่า ทหารรัสเซียมีหน้าที่ขับไล่ผู้รุกรานและปกป้องพลเมืองรัสเซีย โดยขณะนี้กองทัพรัสเซียกำลังผลักดันทหารยูเครนถอยร่นจากแคว้นคูร์สก์ หลังจากบุกเข้าไปตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.

เขายังบอกอีกว่า เป้าหมายหลักของรัสเซียคือการครอบครองภูมิภาคดอนบาสทั้งหมด และอ้างว่า กองทัพรัสเซียยึดดินแดนทางตะวันออกของยูเครนได้เร็วขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2022 รัสเซียได้ประกาศผนวก 2 แคว้นของดอนบาส และอีก 2 แคว้นทางตอนใต้ของยูเครน คือ ซาโปริสเซีย กับเคียร์ซอน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย ถึงแม้ยังไม่สามารถยึดดินแดนเหล่านี้ได้ถ้วนทั่ว

ปูตินยังเสริมว่าพร้อมเจรจากับยูเครน ถึงแม้ที่ผ่านมาได้ปฏิเสธแนวคิดนี้เรื่อยมา แต่เขาสำทับว่า การเจรจาต้องอิงกับข้อตกลงที่คณะเจรจาของมอสโกกับเคียฟได้ตกลงกันเอาไว้ที่นครอิสตันบูล ของตุรกี ในปี 2022 หรือหลังจากรัสเซียบุกยูเครนไม่นาน

ผู้นำรัสเซียทิ้งท้ายว่า สาเหตุที่ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ได้มีการบังคับใช้นั้น เป็นเพราะเคียฟได้รับคำสั่งมา เนื่องจากบรรดาชนชั้นนำในอเมริกาและบางประเทศในยุโรปต้องการเอาชนะทางยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น