สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) ของฮ่องกงระบุวานนี้ (3 ก.ย.) ว่า จากผลการตรวจสอบฝูงบินแอร์บัส A350 หลังเกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง พบว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนในเครื่องบินทั้งหมด 15 ลำ ขณะที่เจแปนแอร์ไลน์ส (JAL) ของญี่ปุ่นออกมาประกาศตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ Rolls-Royce ในฝูงบิน A350 ของตนแล้วเช่นกัน
แหล่งข่าวใกล้ชิดให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า การรั่วไหลในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสาเหตุทำให้เครื่องยนต์ของแอร์บัส A350-1000 เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งถูกดับลงได้อย่างรวดเร็วโดยลูกเรือบนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่นครซูริก และยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของคาเธ่ย์แปซิฟิคเมื่อวันจันทร์ (2) จะนำไปสู่มาตรการบังคับตรวจสอบเครื่องบิน A350 ทั้งหมด
กัปตันของเครื่องบินลำดังกล่าวตัดสินใจนำเครื่องวกกลับมาลงจอดที่ฮ่องกง หลังออกเดินทางไปได้เพียงแค่ชั่วโมงเศษๆ
Aviation Herald ซึ่งเป็นวารสารด้านความปลอดภัยการบินรายงานว่า เครื่องบินลำนี้ต้องวกกลับไปลงจอดสนามบินต้นทาง หลังมีสัญญาณเตือนในห้องนักบินว่าเครื่องยนต์ Rolls-Royce XWB-97 ด้านหนึ่งเกิดเพลิงไหม้ขึ้น
หลังทำการตรวจเช็กตามปกติและนำถังดับเพลิงออกมาใช้ ลูกเรือได้ทำการปล่อยเชื้อเพลิงทิ้งและนำเครื่องกลับสู่ฐาน
คาเธ่ย์แปซิฟิค ระบุว่า เครื่องบิน 3 ลำจากทั้งหมด 48 ลำที่ใช้เครื่องยนต์ Rolls-Royce ผ่านกระบวนการตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว และคาดว่าทั้งหมดจะสามารถกลับมาทำการบินได้ตามปกติภายในวันเสาร์นี้ (7)
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้คาเธ่ย์แปซิฟิคต้องยกเลิกเที่ยวบินไปกลับอย่างน้อย 34 เที่ยวบิน
ล่าสุด สายการบิน JAL ของญี่ปุ่นประกาศวันนี้ (4) ว่ากำลังมีการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ในฝูงบินแอร์บัส A350-1000 ของตนเองด้วยเช่นกัน
โฆษก JAL ระบุว่า ทางสายการบินได้ตรวจสอบเครื่องบิน A350 เสร็จสิ้นไปแล้ว 3 ลำเมื่อวานนี้ (3) และพบว่าเครื่องยนต์ของทั้ง 3 ลำมีความปลอดภัย
“สำหรับเครื่องบินที่เหลืออีก 2 ลำจะทำการตรวจสอบภายในวันนี้ หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานฮาเนดะ” โฆษกเผย
ปัจจุบัน JAL มีฝูงบินแอร์บัส A350-1000 อยู่ทั้งหมด 5 ลำ ซึ่งล้วนผ่านการใช้งานมาไม่ถึง 1 ปี
ที่มา : รอยเตอร์