“เนทันยาฮู” ลั่นไม่ยอมอ่อนข้อใดๆ ทั้งสิ้น แม้ถูกกดดันจากทั้งในและนอกประเทศให้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ขณะที่กลุ่มติดอาวุธในสังกัดฮามาสขู่สังหารตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ ถ้าอิสราเอลยังคงกดดันทางทหารในกาซา เวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญอิสระของยูเอ็นเตือนมีความเสี่ยงสูงที่รัฐยิวจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์แบบเดียวกับในดินแดนกาซา
ในการแถลงข่าวถ่ายทอดทางทีวีเมื่อวันจันทร์ (2 ก.ย.) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถรักษาชีวิตตัวประกันชาวอิสราเอล 6 คนซึ่งถูกสังหารก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะค้นพบในอุโมงค์ใต้ดินในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้สุดของดินแดนฉนวนกาซา เมื่อวันอาทิตย์ (1 ก.ย.) พร้อมกับย้ำว่า ฮามาสจะต้องจ่ายราคาแพงลิ่วสำหรับเรื่องนี้
ผู้นำอิสราเอลยังยืนกรานว่า จะไม่ยอมอ่อนข้อในการเจรจาหยุดยิง
ทางด้าน อบู โอเบดา โฆษกกองกำลังอาวุธ เอซเซดีน อัล-กัสซัม ของกลุ่มฮามาส ประกาศว่า ตัวประกันที่เหลืออยู่จะถูกส่งกลับภายในโลงศพ ถ้าอิสราเอลยังคงการกดดันทางทหารในกาซาต่อไปอีก และบอกว่า นักรบฮามาสซึ่งทำหน้าที่ดูแลตัวประกัน ได้รับ “คำสั่งใหม่” เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำหากกองทัพอิสราเอลเข้าประชิด
ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน หารือกับคณะเจรจาไกล่เกลี่ยของอเมริกาซึ่งทำงานร่วมกับตัวแทนจากกาตาร์และอียิปต์ เพื่อพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในกาซา แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล
ไบเดนได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวซึ่งซักไซ้ว่า คิดว่าเนทันยาฮูพยายามมากพอในการผลักดันข้อตกลงเพื่อช่วยเหลือตัวประกันหรือไม่ ไบเดนตอบว่า “ไม่”
ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันจันทร์เช่นกันว่า จะระงับการจัดส่งอาวุธบางอย่างไปให้อิสราเอล เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างชัดเจนที่อาวุธเหล่านั้นจะนำไปใช้ในปฏิบัติการที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
เนทันยาฮูที่ถูกกล่าวหาจากผู้คนจำนวนมากในอิสราเอลและผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศว่า พยายามยื้อสงครามคราวนี้ออกไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองนั้น ยังคงยืนกรานประเด็นสำคัญซึ่งเป็นตัวถ่วงการเจรจาจนไม่อาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกันได้ นั่นคือ อิสราเอลต้องมีอำนาจควบคุม “ฉนวนฟิลาเดลเฟีย” ซึ่งหมายถึงพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างตอนเหนือกับตอนใต้ของกาซา ตลอดจนพรมแดนระหว่างกาซา-อียิปต์เอาไว้ต่อไป
ถึงแม้ข่าวการเสียชีวิตของตัวประกัน 6 คน ทำให้คนอิสราเอลจำนวนมากทั้งเศร้าโศกและโกรธแค้น กระทั่งออกมาชุมนุมประท้วงเนทันยาฮูตามเมืองใหญ่ต่างๆ เป็นจำนวนถึงราว 5 แสนคนในคืนวันอาทิตย์ และสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของประเทศก็ประกาศนัดหยุดงานทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์เพื่อกดดันให้รัฐบาลยอมทำข้อตกลงหยุดยิง และพวกตัวประกันจะได้เป็นอิสระ
ในอีกด้านหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นในกาซาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้ว ความรุนแรงยังได้ลุกลามไปยังเลบานอน รวมถึงเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ที่ถูกทหารอิสราเอลยึดครองอยู่ โดยที่กองกำลังรัฐยิวยังได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างขนาดใหญ่ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28 ส.ค.) ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คนนับจนถึงวันจันทร์ (2) ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในเมืองรามัลเลาะห์
ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ ด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในดินแดนปาเลสไตน์ เตือนว่า การขยายปฏิบัติการของอิสราเอลในเวสต์แบงก์เป็นการดำเนินการที่อันตราย และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดินแดนดังกล่าวเช่นเดียวกับในกาซาขณะนี้
อัลบานีส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น สำทับว่า นานาชาติไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป เนื่องจากมีหลักฐานเพิ่มขึ้นว่า ไม่มีชาวปาเลสไตน์คนใดปลอดภัยภายใต้การควบคุมอย่างไร้ขีดจำกัดของอิสราเอล
รัฐบาลของชาติต่างๆ ในตะวันออกกลางและตะวันตก ตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่ยูเอ็น เรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการขนาดใหญ่ในดินแดนปาเลสไตน์แห่งนี้ ที่ถูกยิวเข้ายึดครองนับจากปี 1967
อัลบานีสย้ำว่า อิสราเอลที่ยึดถือนโยบายลัทธิเชื้อชาติแบ่งแยกชาติพันธุ์ กำลังล็อกเป้ากาซาและเวสต์แบงก์ตามลำดับ อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการโดยรวมในการกำจัด-เข้าแทนที่-ขยายดินแดน
ผู้เชี่ยวชาญอิสระผู้นี้สำทับว่า จากการได้รับยกเว้นไม่ได้ถูกลงโทษจากการกระทำความผิดมาอย่างยาวนาน ทำให้เวลานี้อิสราเอลเดินหน้าขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนยึดครอง และชาวปาเลสไตน์ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังที่จ้องทำลายล้างพวกเขา
อัลบานีสเรียกร้องให้นานาชาติทำทุกทางที่ทำได้เพื่อยุติความเสี่ยงที่จะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองของอิสราเอลทันที รวมทั้งรับประกันว่า การที่ชาวอิสราเอลบุกรุกเข้าไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์จะต้องสิ้นสุดลง
(ที่มา: เอเอฟพี)