รัฐบาลเวเนซุเอลาในวันจันทร์(2ก.ย.) ประณามความเคลื่อนไหวของพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ยึดเครื่องบินของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ในสาธารณรัฐโดมินิกัน ว่าเป็น "โจรสกัด" เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากทั้งมาดูโรและผู้นำฝ่ายค้านต่างกล่าวอ้างว่าเป็นฝ่ายชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
"เป็นอีกครั้ง ที่พวกเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกา มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมที่ไม่สามารถหาคำจำกัดความอื่นได้ ยกเว้นแต่คำว่า โจรสลัด" กระทรวงการต่างประเทศในกรุงคาราคัสในระบุในถ้อยแถลง
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์(2ก.ย.) สหรัฐฯทำการยึดเครื่องบินของนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา และนำเครื่องบินลำดังกล่าวบินไปยังฟลอริดา อ้างว่าการกระทำในครั้งนี้เกี่ยวกับการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เข้ายึดเครื่องบิน Dassault Falcon 900EX เครื่องบินส่วนตัวที่ใช้งานโดยมาดูโรและสมาชิกในรัฐบาลของเขา โดยกระทรวงยุติธรรมอเมริการะบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกจัดซื้อมาอย่างผิดกฎหมาย
"กระทรวงยุติธรรมยึดเครื่องบินที่เราเชื่อว่าจัดซื้อมาแบบผิดกฎหมาย 13 ล้านดอลลาร์ ผ่านบริษัทเปลือกนอกแห่งหนึ่ง และลอบนำมันออกจากสหรัฐฯ สำหรับใช้งานโดยนิโคลัส มาดูโร และพวกพ้องของเขา" จากการเปิดเผยของเมอร์ริค การ์แลนด์ อัยการสูงสุด
จากเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flightradar24 แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินลำนี้บินจากซันโตโดมิงโกไปยังฟอร์ตลอเดอร์เดลในตอนเช้าวันจันทร์(2ก.ย.)
สหรัฐฯระบุว่าในช่วงปลายปี 2022 และต้นปี 2023 บุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องมาดูโร ใช้บริษัทเปลือกแห่งหนึ่งซึ่งมีสำนักงานในแคริบเบียน ปกป้องความเกี่ยวข้องของพวกเขาในการจัดซื้อเครื่องบินอย่างผิดกฎหมาย จากนั้นเครื่องบินถูกส่งออกแบบผิดกฎหมายจากอเมริกาไปยังเวเนซุเอลา ผ่านแคริบเบียน ในเดือนเมษายน 2023
แอนโทนี ซาลิสบูรี เจ้าหน้าที่พิเศษ ณ สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สาขาไมอามี ระบุว่า "เครื่องบินถูกใช้งานโดยนิโคลัส มาดูโร ในการเดินทางเยือนประเทศต่างๆมากมายหลายชาติ"
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ อยู่ในภาวะสั่นคลอนจากการประท้วง หลัง มาดูโร ประกาศว่าตนเองเป็นผู้ชนะในศึกเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยข้อพิพาท เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและมีคนถูกจับกุมมากกว่า 2,400 คน
ฝ่ายค้านอ้างว่าพวกเขาคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย และพวกเขามีบันทึกการลงคะแนนเพื่อพิสูจน์คำกล่าวหานี้
รัฐบาลฝ่ายซ้ายของมาดูโร ซึ่งเพิกเฉยต่อคำกล่าวหาเผด็จการ ขัดขืนแรงกดดันของนานาชาติที่ขอให้เปิดเผยผลคะแนนทั้งหมด เพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างคว้าชัยชนะของเขา
"มาดูโรและตัวแทนของเขา พยายามยุ่งเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม กล่าวอ้างชัยชนะอันเป็นเท็จ และใช้กำลังดำเนินการปราบปรามอย่างกว้างขวางเพื่อรักษาอำนาจ" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯรายหนึ่งกล่าว
"การยึดเครื่องบินเป็นก้าวย่างที่สำคัญเพื่อรับประกันว่ามาดูโร จะยังคงรู้สึกถึงผลลัพธ์จากการปกครองเวเนซุเอลาอย่างไม่เหมาะสม" ถ้อยแถลงระบุ
สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และประเทศละตินอเมริกาหลายชาติ ปฏิเสธรับรองชัยชนะของมาดูโร หากยังไม่ได้เห็นรายละเอียดผลการลงคะแนน
ความรุนแรงที่มาพร้อมกับการประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 27 รายและบาดเจ็บอย่างน้อย 192 คน
นับตั้งแต่ปี 2005 วอชิงตันกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลามาแล้วหลายรอบ ที่เล็งเป้าเล่นงานบุคคลและนิติบุคคลต่างๆนานา ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำอาชญากรรม ต่อต้านประชาธิปไตยหรือคอรัปชัน อ้างอิงเอกสารสรุปของสภาคองเกรส
(ที่มา:เอเอฟพี)