xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียถล่มทั่วยูเครนต่ออีกวันหลังโจมตีห้างในคาร์คิฟ ขู่กำลังเปลี่ยนหลักการให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ง่ายขึ้น เพื่อตอบโต้ตะวันตกขยายสงครามช่วยเคียฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พนักงานดับเพลิงดับไฟที่เกิดขึ้นหลังจรวดลูกหนึ่งที่เข้าใจว่าฝ่ายรัสเซียยิงเข้ามา ตกใส่อาคารหลังหนึ่งในสถาบันการศึกษาระดับสูง ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เมื่อวันจันทร์ (2 ก.ย.)
รัสเซียเดินหน้าโจมตีทางอากาศใส่กรุงเคียฟเคียฟและอีกหลายแคว้นทั่วยูเครนเมื่อวันจันทร์ (2 ก.ย.) หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเพิ่งยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูกถล่มใส่เมืองคาร์คิฟ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าถูกกระหน่ำด้วย เพื่อตอบโต้ที่ยูเครนโจมตีโรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมันแดนหมีขาว นอกจากนั้นรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียยังประกาศว่า มอสโกมีเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะปรับเปลี่ยนหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ให้งัดออกมาใช้ได้ง่ายขึ้น เพื่อตอบโต้ตะวันตกที่ทำให้สงครามในยูเครนบานปลายขยายตัว

กองทัพอากาศยูเครนแถลงในวันจันทร์ (2) ว่า สามารถทำลายขีปนาวุธ 22 จาก 35 ลูก และโดรน 20 จาก 23 ลำที่โจมตีแคว้นเคียฟ คาร์คิฟ ดนิโปร โปลทาวา มิโคลาอีฟ และซาโปริซเซียเมื่อรุ่งเช้าวันจันทร์ ขณะที่โปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เตรียมพร้อมเครื่องบินของประเทศและชาติพันธมิตรเพื่อปกป้องน่านฟ้าระหว่างการโจมตีของรัสเซีย

วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ โพสต์บนเทเลแกรมว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน รถยนต์ 4 คันไฟลุกไหม้หลังถูกซากอาวุธตกใส่

ก่อนหน้านี้ วันจันทร์ที่แล้ว (26 ส.ค.) รัสเซียก็ส่งขีปนาวุธและโดรนกว่า 200 ชุดโจมตีทั่วยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งเคียฟระบุว่า เป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่เกิดวิกฤตความขัดแย้ง

ด้านรัสเซียยืนกรานว่า ไม่ได้ต้องการโจมตีพลเรือน ขณะที่การสร้างความเสียหายให้ระบบเครือข่ายพลังงานของยูเครนเป็นเป้าหมายทางการทหารที่ชอบธรรม ถึงแม้เคียฟระบุว่าโดรนและขีปนาวุธของรัสเซียทำให้มีพลเรือนในยูเครนเสียชีวิตนับพันคนนับจากที่สงครามเริ่มต้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022

ในวันอาทิตย์ (1 ก.ย.) เคียฟระบุว่ารัสเซียยังยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูกถล่มใส่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยจุดหนึ่งที่ถูกโจมตีด้วยคือห้างสรรพสินค้า การโจมตีคราวนี้ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 47 คน รวมถึงเด็ก 5 คน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ออกมาโวยอีกครั้งเรียกร้องพันธมิตรตะวันตกอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้โจมตีลึกในดินแดนรัสเซีย เพื่อลดภัยคุกคามทางทหารจากมอสโก

เซเลนสกี้ย้ำว่า เฉพาะสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียใช้ขีปนาวุธ 160 ลูก ระเบิดนำวิถี 780 ลูก และโดรน 400 ลำโจมตีเมืองต่างๆ และทหารยูเครนทั่วประเทศ และเรียกร้องผ่านเทเลแกรมให้พันธมิตรตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุญาตให้เคียฟใช้การโจมตีระยะไกลต่อสถานที่ยิงขีปนาวุธและระบบส่งกำลังบำรุงทางทหารในรัสเซีย รวมทั้งร่วมกับเคียฟทำลายขีปนาวุธและโดรนรัสเซีย

ทว่า พันธมิตรของเคียฟต่างกังวลว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะตอบโต้กับการยอมให้ยูเครนใช้อาวุธที่จัดหาให้โจมตีในดินแดนรัสเซีย

ทั้งนี้การโจมตีของรัสเซียใส่คาร์คิฟ เกิดขึ้นหลังจากยูเครนโจมตีโรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียเมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซีย

เจ้าหน้าที่รัสเซียแถลงว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศได้ทำลายโดรน 158 ลำที่ยูเครนส่งเข้าไปโจมตี และซากโดรนที่ร่วงหล่นลงมาทำให้เกิดไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในมอสโกและสถานีพลังงานโคนาวาในแคว้นตเวียร์ที่อยู่ติดกัน

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของรัสเซียที่ว่า มอสโกมีเจตนารมณ์ชัดเจนในการเปลี่ยนหลักนิยมนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การดำเนินการของตะวันตกในความขัดแย้งในยูเครน

ทั้งนี้หลักนิยมนิวเคลียร์ปัจจุบันกำหนดให้รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่ถูกศัตรูโจมตีด้วยนิวเคลียร์หรืออาวุธตามแบบที่คุกคามต่อการดำรงอยู่ของประเทศ

รัสเซียที่กล่าวหาตะวันตกใช้ยูเครนเป็นตัวแทนในการทำสงครามกับตน เคยเกริ่นก่อนหน้านี้แล้วว่า กำลังเปลี่ยนแปลงหลักนิยมดังกล่าว ขณะที่นักวิเคราะห์ทางการทหารสายเหยี่ยวบางคนเรียกร้องให้ปูตินลดเกณฑ์สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อให้ศัตรูในตะวันตก “ได้สติ”

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี, เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น