ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มอบม้าสายเลือดบริสุทธิ์จำนวน 24 ตัวเป็นของขวัญให้แก่ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ เพื่อตอบแทน "เครื่องกระสุน" ที่โสมแดงจัดส่งไปให้มอสโกใช้รบในยูเครน
หนังสือพิมพ์ The Times ของอังกฤษรายงานว่า ม้าสายพันธุ์ Orlov Trotters ซึ่งว่ากันว่าเป็นพันธุ์ที่ผู้นำคิมโปรดปรานมากที่สุด ถูกส่งข้ามพรมแดนจากรัสเซียไปยังเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (25 ส.ค.) ตามข้อมูลจากหน่วยงานด้านสัตวแพทย์ประจำเขต Primorsky Krai ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียที่มีเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อกับเกาหลีเหนือ
สื่อในเกาหลีใต้รายงานตรงกันว่า ม้าเพศผู้ 19 ตัว และเพศเมียอีก 5 ตัว เป็นส่วนหนึ่งของ "ค่าตอบแทน" ที่รัสเซียจ่ายให้เปียงยาง เพื่อแลกกับเครื่องกระสุนต่างๆ ที่ถูกนำไปใช้ทำสงครามรุกรานยูเครน
ขณะเดียวกัน สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า ผู้นำโสมแดงได้เคยมอบสุนัข Pungsan ซึ่งเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของเกาหลีเหนือให้ ปูติน จำนวน 1 คู่เมื่อเดือน มิ.ย. หลังจากที่ผู้นำทั้งสองได้ลงนาม "ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนแบบครอบคลุม" และให้สัญญาว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือกันในด้านการทหาร ซึ่งต่อมาในเดือน ส.ค. ปูติน ยังได้มอบแพะอีก 447 ตัวเป็นของขวัญให้แก่ คิม อีกด้วย
นอกจากโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัวแล้ว เกาหลีเหนือยังทุ่มงบประมาณหลายแสนดอลลาร์เพื่อยกระดับ "หน่วยทหารม้า" ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีทางทหารที่เก่าแก่ที่สุด โดยในช่วงระหว่างปี 2020-2023 เกาหลีเหนือใช้เงินไม่ต่ำกว่า 600,000 ดอลลาร์ในการนำเข้าม้าสายพันธุ์ต่างๆ จากรัสเซีย
สำหรับผู้นำคิม ม้าเหล่านี้มีคุณค่าในเชิงสัญลักษณ์มากกว่าประโยชน์ในทางทหาร เพราะช่วยในการเสริมสร้างภาพลักษณ์และสนับสนุนลัทธิบูชาตระกูลคิม
เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้นำ คิม จองอึน ชื่นชอบม้าเป็นชีวิตจิตใจ และ Orlov Trotter ก็เป็นม้าสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัสเซีย และเป็นที่นิยมของผู้นำตระกูลคิม
สื่อยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า คิม จองอึน เคยขี่ม้าขาวสายพันธุ์นี้ขึ้นภูเขาแพ็กตู (Peaktu) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ถิ่นกำเนิดของต้นตระกูลคิมในเดือน ก.พ. ปี 2019 และเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ม้าสีขาวที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นของ คิม จูแอ บุตรสาวผู้นำเกาหลีเหนือ ก็ได้ปรากฏตัวในพิธีสวนสนามกองทัพ ซึ่งอาจเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าเธอคือทายาทสายตรงที่มีความชอบธรรมของตระกูลผู้ปกครองเกาหลีเหนือ
ที่มา : The Independent, Korea Times