ชายผิวสีรายหนึ่งจากแมริแลนด์ กล่าวหา Chick-fil-A เครือภัตตาคารอาหารจานด่วนสัญชาติอเมริกา "เหยียดผิว" หลังพนักงานของทางร้านระบุชื่อลูกค้าในใบสั่งซื้อของเขาว่า "ไอ้ลิงกัง'
มาคีส์ วานเซโก ขับรถไปสั่งซื้ออาหารผ่านช่องทางไดรฟ์ทรู ที่สาขาแห่งหนึ่งของ Chick-fil-A ในเมืองลาปลาตา ในรัฐแมริแลนด์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม และสั่งซื้อไก่ทอด มันฝรั่งทอดและชาเย็น ทว่าพนักงานรายหนึ่งกลับระบุชื่อผู้สั่งซื้อว่าเป็น "ลิงกัง" แทนที่จะใช้ชื่อ มาคีส์ วานเซโก ซึ่งเป็นคนผิวสี และเขารู้สึกช็อกมากหลังจากที่ได้เห็นมัน
"ความรู้สึกของผมคือ หัวใจของผมเหมือนถูกทิ่มแทง" เขาบอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่น "ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์อื่นๆ ทั้งหมดทั้งมวลที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ จากที่คุณเคยได้ยินตามรายงานข่าวต่างๆ เกี่ยวกับการเหยียดผิว"
วานเซโก เผยว่าเขาได้เข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการร้านที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่พอดี และทางผู้จัดการร้านได้กล่าวขอโทษ พร้อมกับเสนอมอบคืนเงินให้เขา อย่างไรก็ตาม ทาง วาเซโก บอกว่าเขาจะเขียนหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมองว่ามันเป็นการล่วงละเมิดที่เลวร้ายมากๆ
เขายังได้แชร์วิดีโอหนึ่งซึ่งเป็นนาทีที่ตนเองอยู่ภายในร้าน เผชิญหน้ากับพนักงาน แต่ผู้จัดการเข้ามาขัดขวาง ไม่อนุญาตให้ วานเซโก เข้าไปพูดคุยกับพนักงานรายดังกล่าว
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางส่วนแสดงความคิดเห็นบ่งชี้ว่าระบบอินเตอร์คอมของไดรฟ์ทรู อาจเป็นต้นตอของการพิมพ์ใบสั่งซื้อผิดและออกมาในเชิงล่วงละเมิดเหยียดผิว แต่ วานเซโก ยืนยันชัดเจนว่าเขาสั่งซื้อโดยตรงกับพนักงานชายวัยรุ่นผิวขาวที่ยืนอยู่นอกร้านและทำหน้าที่รอรับออร์เดอร์จากลูกค้า
จอห์น แพลตลีย์ เจ้าของร้านแจ้งกับ วานเซโก ว่าไม่สามารถเลิกจ้างพนักงานรายนี้ได้ เนื่องจากพนักงานรายดังกล่าวมีอายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมบอกกับ วานเซโก กลับไปอีกว่า พนักงานของร้านระบุชื่อลูกค้าตามที่ได้ยิน
ฝ่ายการตลาดของ Chick-fil-A ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "Chick-fil-A คือแฟรนไชส์ที่ปฏิบัติการโดยอิสระ และแฟนไชส์สาขานี้ได้ขอโทษลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ตรงกับความคาดหวังของเรา และมันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
วานเซโก แสดงความหวังว่าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้จะตระหนักรู้ทางสังคมมากขึ้นจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น "ผมเชื่อว่าเขาควรต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ" พร้อมระบุ "ผมเข้าใจดีว่า เขาเป็นคนหนุ่ม อายุแค่ 17 ปี เขายังคงต้องเรียนรู้ แต่เขาจำเป็นต้องรู้เช่นกันเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตามมาจากสิ่งที่เขาทำ"
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)