ระเบิดนำวิถีลูกหนึ่งของรัสเซียพุ่งเข้าใส่อาคารที่พักอาศัยและสนามเด็กเล่นในเมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) ของยูเครนเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บอีกไม่น้อยกว่า 77 คน ท่ามกลางสถานการณ์สงครามที่ยังคงดุเดือดไร้วี่แววเจรจา
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี ขณะที่ อิฮอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีคาร์คิฟ ได้ประกาศทางเทเลแกรมก่อนหน้านั้นว่ามีเด็กคนหนึ่งเสียชีวิตภายในสนามเด็กเล่น
อานุภาพของระเบิดทำให้อพาร์ตเมนต์สูง 12 ชั้นหลังนี้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง และยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 7 คน หลังมีการพบศพหญิงคนหนึ่งในซากปรักหักพัง
โอเลห์ ซีนีฮูบอฟ ผู้ว่าการประจำภูมิภาค ยืนยันว่ามีผู้บาดเจ็บราวๆ 20 รายที่อาการสาหัส
ด้านหนึ่งของอาคารถูกปกคลุมด้วยควันไฟสีดำทะมึน และห้องพักชั้นสูงๆ ส่วนใหญ่ถูกไฟไหม้แทบทั้งหมด ขณะที่รถยนต์ซึ่งจอดอยู่นอกอาคารก็ถูกไฟไหม้เสียหายด้วย
หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครกู้ชีพจำนวนมากช่วยพาผู้รอดชีวิตออกจากอาคาร ขณะที่ร่างของเหยื่อคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพรมด้านนอกโดยมีตำรวจรายล้อม
ผู้พักอาศัยซึ่งมีทั้งเด็ก คนหนุ่มสาว และผู้สูงอายุในสภาพเปื้อนเลือดนั่งอยู่ที่ม้านั่งด้านนอกด้วยอาการช็อก และมีทีมแพทย์เข้าไปช่วยปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ
เมืองคาร์คิฟตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วงจากฝ่ายรัสเซียเรื่อยมา ทว่าสถานการณ์ผ่อนคลายความรุนแรงลงมาบ้างในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการที่ยูเครนเปิดปฏิบัติการบุกแคว้นคูสก์แบบสายฟ้าแลบ
ทางการยูเครนแถลงวานนี้ (30) ว่าเหตุโจมตีอพาร์ตเมนต์ที่คาร์คิฟเกิดจากระเบิดนำวิถี 5 ลูกที่ยิงมาจากเครื่องบินของรัสเซียในภูมิภาคเบลโกร็อด หรือที่เรียกกันว่า ‘ระเบิดร่อน’ (glide bombs) โดยกระสุนเหล่านี้มีการติดตั้งระบบนำทางเพื่อให้พุ่งโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ
อาวุธประเภทนี้ยากแก่การสกัดกั้น และถือเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวสำหรับสงครามในภาคตะวันออกของยูเครนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง
รัสเซียยืนยันว่าไม่เคยมีเจตนาล็อกเป้าโจมตีพลเรือน ทว่าในความเป็นจริงกลับมีผู้บริสุทธิ์ชาวยูเครนหลายพันคนที่ต้องเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตียูเครนเต็มรูปแบบที่เริ่มปะทุขึ้นในเดือน ก.พ. ปี 2022
จากเหตุการณ์โจมตีที่คาร์คิฟทำให้ เซเลนสกี ถือโอกาสเรียกร้องอีกครั้งให้ชาติพันธมิตรตะวันตกอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลยิงโจมตีฐานทัพอากาศในรัสเซีย
“การโจมตีครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น หากกองทัพของเรามีศักยภาพพอที่จะยิงทำลายอากาศยานของรัสเซียตั้งแต่อยู่ที่ฐาน” เซเลนสกี โพสต์ข้อความผ่านเทเลแกรม “ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะจำกัดวิธีการป้องกันตนเองของยูเครน”
รัฐบาลเคียฟมองว่า วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเหตุโจมตีลักษณะนี้ก็คือต้องยิงทำลายเครื่องบินของรัสเซีย มากกว่ามุ่งสกัดกั้นระเบิดที่ถูกยิงเข้ามา
ที่มา : รอยเตอร์