ปฏิบัติการของยูเครนที่รุกรานเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ได้ยกระดับความตึงเครียดถึงขีดจำกัด และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พูดถูกแล้วที่เตือนว่าสถานการณ์นี้อาจลุกลามเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 จากความเห็นเป็นนัยของดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน
ระหว่างปราศรัยกับที่ประชุมประจำปีของสมาคมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ในดีทรอยต์ เมื่อวันจันทร์ (26 ส.ค.) ทรัมป์ กล่าวอ้างว่า "สหรัฐฯ ไม่เคยเฉียดใกล้สงครามโลกครั้งที่ 3 ดังเช่นเวลานี้มาก่อนเลย ลองมองไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครนในตอนนี้ พวกเขาบุกเข้าไปยังรัสเซีย คุณกำลังไปลงเอยด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 และมันจะเป็นครั้งเลวร้าย"
ในเรื่องนี้ เปสคอฟ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันพุธ (28 ส.ค.) ว่า "แน่นอนว่าการโจมตีดังเช่นในแคว้นคูร์สก์ เป็นการกระทำที่ยกระดับความตึงเครียดถึงขีดจำกัด เพราะฉะนั้นมันจึงมีสาเหตุแห่งความเป็นกังวล และในกรณีนี้ ถ้อยแถลงที่แสดงความวิตกกังวลอย่างยิ่งเช่นนั้น (ของทรัมป์) จึงเป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้"
กองกำลังยูเครนบุกเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดใส่ดินแดนของรัสเซียที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ นับตั้งแต่ความเป็นปรปักษ์เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 การรุกคืบถูกทหารรัสเซียสกัดไว้ได้อย่างรวดเร็ว แต่การสู้รบในภูมิภาคนี้ยังคงเดินหน้าต่อไป และเคียฟยังคงสามารถยึดครองถิ่นพักอาศัยได้จำนวนหนึ่งในพื้นที่ตามแนวชายแดน
ทางกองทัพยูเครนใช้อาวุธที่ได้รับมอบจากตะวันตกระหว่างการรุกราน และมอสโกกล่าวหาสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ ว่าให้การฝึกฝนกองกำลังบางส่วนที่เข้าร่วมในปฏิบัติการนี้ อย่างไรก็ตาม วอชิงตันปฏิเสธว่าพวกเขาไม่รู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับปฏิบัติการรุกรานของยูเครน และพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุพวกเขายังคงไม่แน่ใจว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเคียฟนั้นคืออะไร
ทรัมป์ ยืนยันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ว่านโยบายยูเครนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 และเขาบอกว่าเขาจะยุติความขัดแย้งภายใน 24 ชั่วโมง หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ อีลอน มัสก์ ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เขาอ้างว่า ไบเดน สามารถที่จะบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ กับรัสเซียได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่ความขัดแย้งจะเริ่มขึ้นในปี 2022 แต่ ไบเดน เลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น
ทรัมป์ บอกกับ มัสก์ ว่าเขาคิดว่าการที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งระดมทหารตามแนวชายแดนยูเครน ณ ขณะนั้น ก็เพื่อกดดันให้มีการ "เจรจาต่อรอง" แต่ ไบเดน เริ่มพูดสิ่งที่โง่เขลาต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น "ยูเครนสามารถเป็นประเทศสมาชิกนาโต"
"ถ้าเป็นผม ผมจะหยุดเรื่องนี้ และประธานาธิบดีที่ฉลาดหลักแหลมรายหนึ่งก็สามารถหยุดสิ่งนี้ได้ คำพูดที่ ไบเดน ใช้ มันแย่มากๆ คำขู่โง่ๆ ออกมาจากใบหน้าโง่ๆ ของเขา มันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3" เขากล่าว
ทรัมป์ อ้างว่า กมลา แฮร์ริส ซึ่งเข้ารับหน้าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับเขาแทน ไบเดน ที่ถอนตัวออกไปในเดือนที่แล้ว ก็จะยังคงเดินหน้า "สงครามไม่รู้จบ" ที่เริ่มโดยหัวหน้าของเธอ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ไม่ได้ล็อบบี้พันธมิตรในสภาคองเกรส ในการขัดขวางแพกเกจช่วยเหลือเคียฟมูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษยน และบอกในตอนนั้นว่าเขาจะสนับสนุนเงินปล่อยกู้ แทนการมอบเป็นของขวัญแก่ยูเครน ในความช่วยเหลือใดๆ ในอนาคต
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)