สื่อต่างประเทศรายงานข่าวกองทัพอากาศไทยตัดสินใจเลือกเครื่องบินขับไล่กริพเพน (Gripen) บรรจุเข้าฝูงบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ โดยมองว่าข้อเสนอซึ่งผู้ผลิตสัญชาติสวีเดนให้มานั้นตอบโจทย์ความต้องการของไทยมากกว่า F-16 จากอเมริกา
กองทัพอากาศไทยระบุในคำแถลงที่เผยแพร่วานนี้ (27ส.ค.) ว่า "คณะกรรมการพิจารณาเลือกแบบ ได้กำหนดขั้นตอนและเกณฑ์การพิจารณาที่ละเอียดรอบคอบ โดยใช้ระยะเวลากว่า 10 เดือนในการดำเนินการ จึงสามารถสรุปได้ว่าเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F มีขีดความสามารถที่ตอบสนองความต้องการทางยุทธการตามหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ ทั้งยังมีอิสระในการใช้งาน และสามารถพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติการร่วมหลายมิติ (Multi-Domain Operations) ระหว่างกองทัพอากาศร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ภายใต้แนวความคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต"
ทอ.ยังระบุด้วยว่า “การพิจารณาดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศไปอีกอย่างน้อย 30 ปี”
สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 รุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ก็ยังอยู่ในการพิจารณา โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายนั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อฝูงบินกริพเพนมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาทดแทนฝูงบินขับไล่ F-16 A/B ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980
กองทัพอากาศไทยยังไม่ได้เผยรายละเอียดว่าจะมีการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนทั้งหมดกี่ลำ แต่มีรายงานจากสื่อที่เชี่ยวชาญด้านการทหารออกมาให้ข้อมูลเมื่อช่วงต้นปีนี้ว่า ไทยน่าจะมีแผนจัดซื้อประมาณ 12 ลำ
ปัจจุบันไทยมีฝูงบินขับไล่กริพเพนรุ่นเก่าใช้งานอยู่ 11 ลำ และมีฝูงบิน F-16 อยู่อีกหลายสิบลำ
ด้านบริษัท ซาบ (Saab) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินกริพเพนได้ออกมาแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของกองทัพอากาศไทย
“เราสามารถยืนยันได้ว่า กองทัพอากาศไทยได้แถลงต่อสาธารณชนแล้วว่ามีความสนใจที่จะสั่งซื้อฝูงบินขับไล่กริพเพน ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากสำหรับซาบและสวีเดน” แมทเทียส รัดสตรอม ผู้จัดการฝ่ายสื่อของซาบ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“ณ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการทำสัญญาหรือมีคำสั่งซื้อเข้ามา แต่เราก็รอคอยที่จะได้หารือเพิ่มเติมกับกองทัพอากาศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย”
ที่มา : เอเอฟพี