นับจากที่เริ่มหัดยิมนาสติกในศูนย์ส่งเสริมกีฬาเมื่อวัย 6 ปี ในเมืองสปริง นครฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ซิโมน ไบล์ส รุกคืบขึ้นสร้างความก้าวหน้าและสะสมความสำเร็จอย่างมุ่งมั่น จนกระทั่งทะยานสู่บัลลังก์ราชินียิมนาสติกโลก อันเป็นความสำเร็จจากพรสวรรค์ขั้นเทพนารี และพรแสวงอันมหาศาลที่อิงอยู่กับพลังวิริยะอุตสาหะยิ่งกว่าสงครามชีวิตโอชิน
ราชินียิมนาสติก นามว่า ซิโมน ไบล์ส ณ วัย 27 ปี ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในมหกรรมโอลิมปิกส์ปารีส 2024 เธอชนะเหรียญทอง 3 รายการ และเหรียญเงิน 1 รายการ ซึ่งทำให้ยอดรวมเหรียญเกียรติยศแห่งโอลิมปิกส์ของเธอ พุ่งขึ้นเป็น 11 เหรียญ และเมื่อนับรวมกับเหรียญเวิลด์ แชมเปียนชิป 30 รายการ เธอเป็นนักยิมนาสติกที่มีเหรียญเกียรติยศมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และได้รับยกย่องว่าเป็น GOAT หรือก็คือ Greatest of All Time
อัจฉริยะนักยิมนาสติกที่โลกรู้จักและชื่นชมกันมาก อย่าง “ซิโมน ไบลส์” ขับเคลื่อนชีวิตฝ่าความป่วยไข้ของจิตใจซึ่งมหาศาลระดับที่เคยคิดถึงการปลิดชีพตนเอง โดยเธอสะบักสบอมหนักหนากว่าจะสามารถอยู่ร่วมกับเสียงร้ายๆ ในศีรษะ ตลอดจนอาการซัดส่ายในจิตใจได้เป็นอย่างดี หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากนักจิตบำบัด และจากเทคนิคยอดเยี่ยมแห่งการทำสมาธิให้จิตสงบลงและมาตั้งมั่นกับสิ่งที่ต้องทำเฉพาะหน้าได้ลุล่วง
ในปี 2023 ซิโมนปิดฉากวิกฤติ Twisties ร้ายแรงได้สำเร็จทั้งในทางความเป็นจริงและในมิติของความหวาดระแวง
ด้วยเหตุนี้ ซิโมนสามารถกลับสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกอย่างมั่นใจ หลังจากต้องหยุดภารกิจเกียรติยศเพื่อประเทศชาติในปี 2021 แล้วรับการบำบัดรักษาสุขภาพจิตใจ ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือสนับสนุนจากนักจิตวิทยาบำบัดการกีฬา ที่เธอเคยใช้บริการและได้ผลดีมาแล้วตั้งแต่วิกฤติรอบแรกในปี 2013
โดยในรอบนี้ ซิโมนได้เทคนิคสำคัญมาเพิ่มเติม คือ การทำกรรมฐานลมหายใจที่ช่วยให้คลี่คลาย เมื่ออารมณ์ว้าวุ่นส่ายซัดผุดขึ้นบั่นทอนจิตใจ พลังสมาธิที่ตั้งมั่นจึงผงาดขึ้นเกื้อหนุนให้สามารถนำศักยภาพแท้จริงออกมาได้อย่างเป๊ะปัง ยิ่งกว่านั้น ยังเกื้อกูลให้ใจยอมรับสิ่งที่ไม่น่าพึงปรารถนาได้แบบชิลๆ
“ซิโมน ไบล์ส” จากหนูน้อยยากจน/เด็กบ้านแตก สู่เจ้าแม่โอลิมปิกยิมนาสติก เธอทำสมาธิจิตตั้งมั่น ความวิตกที่บั่นทอนความรู้สึกก็จางหายไป แล้วเดินเข้าแข่งขัน แล้วคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ
ซิโมน ไบล์ส นำเทคนิคการทำกรรมฐานลมหายใจมาใช้ที่ข้างเวทีการแข่งขัน เพื่อฟื้นสมาธิให้กลับมาตั้งมั่นเป็นปกติ นั้น เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันรายการรวมอุปกรณ์หญิงเดี่ยว (4 อุปกรณ์) ณ มหกรรมโอลิมปิกส์ปารีส 2024 วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2024
โดยในอุปกรณ์แรก ม้ากระโดด ซึ่งซิโมนถนัดอย่างยิ่ง เธอเล่นได้สุดยอด และทำคะแนนนำโด่งเป็นที่ 1 ณ ระดับ 15.766 มากกว่าคู่แข่งยอดฝีมือจากบราซิลตั้ง 0.666
แต่ปัญหาเกิดขึ้นในอุปกรณ์ที่ 2 คือ บาร์ต่างระดับ ซิโมนพลาดอย่างเหลือเชื่อ แม้เธอก็ฉับไวและสติเข้มแข็งมากพอที่จะประคองสถานการณ์ได้ ไม่ถึงกับตกร่วงสู่พื้น แต่ความผิดพลาดนี้ส่งผลให้คะแนนรวมสองอุปกรณ์อ่อนยวบลงไป และถูกรีเบคกา อันดราเด้ คู่แข่งจากบราซิล แซงนำขึ้นไป 0.267
สถานการณ์ที่กำลังทำคะแนนนำอยู่แท้ๆ แล้วเล่นพลาดเอง คะแนนร่วงลงเป็นอันดับสอง คืออะไรที่นักกีฬา 99.99% จะเกิดความรู้สึกติดลบต่างๆ ในกรณีของซิโมน ไบล์ส ก็เช่นกัน เธอเครียดและว้าวุ่นใจไม่อยากแพ้ แม้ระดับความเครียดจะไม่ถึงกับมหาศาล แต่ความรู้สึกติดลบก็จะไปบั่นทอนสมาธิในการเล่นอุปกรณ์ที่ 3 อย่างแน่นอน
ซิโมนจึงนำวิธีทำกรรมฐานลมหายใจมาดูแลตนเองโดยไม่ผลัดผ่อน เพื่อปรับโฟกัสของจิตใจ ฟื้นพลังสมาธิตั้งมั่น และดังนั้น สภาวะของจิตก็คลี่คลายออกจากความว้าวุ่นวิตกที่คอยแต่จะบั่นทอนให้ศักยภาพการเล่นยิมนาสติกได้รับความเสียหาย
โดยเอพีรายงานว่าหลังจากที่เลินเล่อตอนแข่งบาร์ต่างระดับและเกิดความผิดพลาด ซิโมนนั่งลงบนเก้าอี้ริมเวทีแข่งขันคานทรงตัว (อุปกรณ์ที่ 3) เธอหลับตาทั้งสอง ไม่ใส่ใจกับกล้องนับร้อยนับพันที่ล้อมรอบ แล้วปรับโฟกัสของจิต
เอพีรายงานด้วยว่าก่อนหน้านี้ ในระหว่างที่โยกย้ายจากเวทีแข่งขันบาร์ต่างระดับ ไปยังเวทีของคานทรงตัว ซิโมนได้คุยกับสามีนักอเมริกันฟุตบอล NFL แห่งชิคาโกแบร์ส
“ฉันไม่เคยรู้สึกกดดันมากอย่างนี้เลยน่ะค่ะ”
พร้อมนี้เอพีอธิบายว่า อาจเป็นเพราะซิโมนไม่ได้ถูกคู่แข่งจ่อตามติดๆ อย่างหนักหน่วงแบบที่โดนอยู่ตอนนั้น มาเนิ่นนานแล้ว
ในที่สุด กรรมฐานของซิโมนก็ทำให้ความกระวนกระวายว้าวุ่นใจ จางลง แล้วซิโมนก็เข้าสู่การแข่งขันอุปกรณ์ที่ 3 คือ คานทรงตัว ต่อด้วยอุปกรณ์ที่ 4 ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ อย่างชนิดที่ไม่เคยทำได้ดีเท่านี้มาก่อน
ซิโมนทำคะแนนในอุปกรณ์คานทรงตัวและฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ได้ดีกว่ารีเบคก้าอย่างมากมาย คะแนนรวมของซิโมนจึงแซงกลับขึ้นไปอย่างฉลุยแล้วฉลุยอีก และจึงชนะได้เหรียญทองไปด้วยคะแนนที่มากกว่าคู่แข่งบราซิลเลียนตั้ง 1.199 กันเลยทีเดียว
ปรากฏการณ์มหัศจรรย์เหล่านี้เป็นอะไรที่สมควรด้วยเหตุของมัน กล่าวคือ เมื่อใจมีสมาธิสงบตั้งมั่น ศักยภาพแท้จริงของกายก็ถูกนำมาใช้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น จึงเป็นธรรมดาที่ซิโมนจะนำวิธีทำสมาธิที่ฝึกไว้เป็นอย่างดี มาใช้ช่วยเหลือจิตใจที่ออกอาการระยะต้น ให้คลี่คลายมาเป็นสภาวะเปี่ยมด้วยสมาธิ ซึ่งก็จะเห็นได้บ่อยๆ ว่านักกีฬาเหรียญทองจำนวนมากมักจะมีสมาธิขั้นสูงขณะทำการแข่งขัน อาทิ ในกีฬากระโดดน้ำ
หลังจากคว้าแชมป์รายการรวมอุปกรณ์หญิงเดี่ยว ในวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม ณ สนามกีฬาแบร์คซีกรุงปารีส ซิโมน ไบล์ส วัย 27 ปี นำภาพตัวเธอเองในโมเมนต์การเข้าสมาธิ ขึ้นโพสต์บนอินสตาแกรมเมื่อ 2 สิงหาคม พร้อมกับใส่แคปชันว่า
“สุขภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ” พีเพิลรายงานอย่างนั้น
ในห้วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซิโมนเน้นเรื่องสุขภาวะของจิตใจเป็นอย่างยิ่ง โดยจะพูดเปิดใจเสมอว่าเธอทุกข์ทรมานกับสภาพจิตใจอย่างร้ายแรงเพียงใดในคราวโอลิมปิกส์โตเกียว 2020 เมื่อกรกฎาคม-สิงหาคม 2021
แล้วก็เป็นที่โตเกียวนั่นเองที่ซิโมนถูกความบอบช้ำจากปัญหานี้ บีบให้ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันแบบกลางคัน เพราะมีปรากฏการณ์ผิดปรกติทางจิตใจแบบ Twisties ซึ่งบล็อกร่างกายไม่ให้รับรู้ทิศทางในขณะออกท่าหมุนกายกลางอากาศ ทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งในตอนที่ร่างกายแลนดิ้งลงพื้น
“ตอนเตรียมตัวเข้าแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว ดิฉันผวาระวังหนักมากในเรื่องการเจ็บป่วยทางร่างกายค่ะ จึงไม่ได้ดูแลสุขภาพจิตใจ เพราะงั้นดิฉันเลยซุกปัญหาจิตใจสะสมไว้ จนกระทั่งบาดเจ็บขึ้นมา และมันเป็นอาการบาดเจ็บทางจิตใจ”
ซิโมนเล่าไว้ในช่วงตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2024 หลังคว้าทองเหรียญที่ 2ในมหกรรมโอลิมปิกส์ปารีส อันได้แก่ เหรียญทองรวมอุปกรณ์ประเภทบุคคล ส่วนเหรียญแรกเป็นเหรียญทองรวมอุปกรณ์ประเภททีมหญิงเมื่อสองวันก่อนหน้า
การแผลงฤทธิ์ของปัญหาจิตใจอักเสบที่ออกอาการเป็น Twisties ปรากฏขึ้นครั้งแรกอย่างน่าตกใจในระหว่างการแข่งยิมนาสติกม้ากระโดดเมื่อคราวโอลิมปิกส์โตเกียว 2020 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2021
โดยในจังหวะที่ ซิโมน เล่นท่ายากอันลือลั่น คือ ท่าอามานาร์ ม้ากระโดด Amanar Vault ซึ่งต้องหมุนร่างกายที่เหยียดตรงแบบควงสว่าน รวม 3 รอบ ก่อนจะแลนดิ้งลงไปยืนสง่าบนพื้นนั้น มีความผิดปกติเกิดขึ้น ซิโมนหมุนร่างกายได้เพียงหนึ่งรอบครึ่ง แล้วแลนดิ้งลงไปแบบย่ำแย่ คือ เกือบจะนั่งกองบนบนพื้น เพราะแทบจะไม่สามารถยืนไหว ทั้งๆ ที่โดยปกติแล้ว ซิโมนสามารถเล่นท่าอามานาร์ซึ่งยากเข็ญ ได้แบบง่ายๆ สง่าสบายมาโดยตลอด เดอะการ์เดียนรายงาน
หลังเหตุการณ์สุดช็อกดังกล่าว ซิโมนแจ้งผู้ใหญ่ของทีมชาติยูเอสเอว่า ขอถอนตัวจากการชิงเหรียญทองโอลิมปิกส์โตเกียว พร้อมเปิดเผยตรงๆ ว่าจำเป็นอย่างมากๆ ที่จะต้องปกป้องคุ้มครองสุขภาวะของตนเอง ทั้งนี้ ต้องนับว่าตัดสินใจถูกเพราะปัญหา Twisties นำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บต่างๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะดันทุรัง
สุขภาพจิตอักเสบเป็นผลจากเรื่องร้ายกาจหลากหลายสิ่ง เช่น บ้านแตก คุณแม่ขี้ยาวนเวียนเข้าคุก และอารมณ์ผวาวิตก ลนลาน เครียดจากโรคภัย พากันผุดขึ้นทำลายสมาธิและความมั่นใจ
ปัญหาสุขภาพจิตอักเสบของซิโมนเป็นผลจากเรื่องร้ายกาจหลากหลายสิ่ง ซึ่งบั่นทอนจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สั่นคลอนความมั่นใจซื่อๆ ที่ทำให้สนุกกับการตีลังกาและม้วนตัวในอากาศสารพัดท่า ที่เคยรู้สึกง่ายๆ ว่า หนูทำได้
เมื่อครั้งที่ยังเป็นหนูเล็กเด็กน้อย ซิโมนกับพี่สองคนและน้องสาวหนึ่งคนอยู่ในภาวะบ้านแตก คุณพ่อเคลวิน คลีเมนส์ กับคุณแม่แชนนอน ไบล์ส ต่างติดเหล้าและติดยา อยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อเคลวินทิ้งครอบครัวไป ขณะที่คุณแม่ซึ่งต้องเลี้ยงดูลูกๆ 4 คน ก็วนเวียนเข้าออกคุก ทำให้ซิโมนและพี่น้องก็ต้องเข้าออกบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นระยะๆ รวมได้ 3 ปีก่อนที่ชะตาชีวิตจะพลิกผัน นิวยอร์กโพสต์และพีเพิลรายงาน
ในปี 2003 แกรนด์ปาโรนัลด์ ไบล์ส กับคุณยายเลี้ยง เนลลี ไบล์ส (ซึ่งแม้จะมิใช่คุณยายแท้ๆ เพราะเป็นภรรยาใหม่ของคุณตา แต่ก็ใส่ใจดูแลหลานๆ เป็นอย่างดีเยี่ยม) ก้าวเข้าไปช่วยในยามที่ชีวิตของคุณแม่แชนนอนตกต่ำสุดๆ และมีการเซ็นหนังสือมอบเด็กทั้ง 4 ให้เป็นลูกของคุณตาโรนัลด์ ซึ่งตอนนั้นซิโมนมีอายุเพียง 6 ขวบ น้องเอเดรียอายุ 3 ขวบ ส่วนพี่ๆ สองคน คือ แอชลีย์ วัย 13 ปี กับเทวิน วัย 8 ปี ก็ย้ายจากบ้านเกิดไปอยู่ในความอุปการะของน้องสาวคุณตาในนครคลีฟแลนด์ ซึ่งยังอยู่ในรัฐโอไฮโอแต่ห่างจากโคลัมบัสมากกว่า 200 กิโลเมตร
เท่ากับว่าในห้วง 3-6 ปีแรกของชีวิต ดวงใจของเด็กหญิงซิโมนอยู่ในสภาวะเร่ร่อนขาดความมั่นคง และว้าเหว่
ยิ่งกว่านั้น ชีวิตของซิโมนยังถูกบั่นทอนด้วยโรคสมาธิสั้น ทำให้ซิโมนเป็นเด็กอยู่นิ่งไม่ได้ ซุกซนมากกว่าเด็กๆ ทั่วไป และที่สำคัญปัญหาเคมีในสมองส่วนหน้าบกพร่อง ทำให้ซิโมนถูกอารมณ์ว้าวุ่นฟุ้งซ่านคอยรบกวนจิตใจ แต่ยังมีบุญรักษา ภรรยาของคุณตาสงสารและเข้าใจซิโมน คอยช่วยประคับประคองให้คำแนะนำ
อย่างไรก็ตาม ซิโมนมีพรสวรรค์สำคัญยิ่งยวด คือ ทักษะการเล่นยิมนาสติก
ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายจากบ้านเกิดในนครโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ไปอยู่กับคุณตาโรนัลด์ในเมืองสปริง นครฮิวสตัน รัฐเท็กซัส และเข้าเรียนในโรงเรียนใหม่ คุณครูจัดพาไปชมการฝึกสอนยิมนาสติกของศูนย์ยิมนาสติกเมืองสปริง
ปรากฏว่าคุณครูบูร์แมน โค้ชยิมนาสติก เห็นแววอัจฉริยะของเด็กหญิงตัวจิ๋วนามซิโมน ซึ่งสามารถเล่นท่าต่างๆ ได้เอง ด้วยการเล่นตามอย่างพี่ๆ ที่เข้ารับการฝึกสอน พร้อมนี้คุณครูโค้ชบูร์แมนได้เขียนจดหมายน้อยไปแจ้งทราบแก่คุณตาโรนัลด์ และแนะนำให้พาซิโมนตัวน้อยไปสมัครเข้ากิจกรรมของศูนย์เพื่อพัฒนาพรสวรรค์ให้รุดหน้า อีกทั้งยังจะช่วยให้น้องได้ปล่อยพลังส่วนเกินจากโรคสมาธิสั้นออกไปกับกิจกรรมกีฬา เกร็ดเรื่องนี้ ซิโมนเปิดเผยไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติ Courage to Soar: A Body in Motion, A Life in Balance (หนังสือปี 2016)
หลังจากที่เริ่มเรียนเริ่มฝึกยิมนาสติกตอนอายุ 6 ปี ยัยหนูซิโมนเก่งฉกาจมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มเข้าแข่งขันตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี โดยคุณครูโค้ชบูร์แมนทำหน้าที่โค้ชประจำตัวน้องซิโมนตั้งแต่นั้นมา เว็บไซต์แอนสเคปดอทคอมเล่าไว้อย่างนั้น
ตัวซิโมนเองก็เล่าด้วยว่า ดีมากๆ ที่ได้ฝึกยิมนาสติกซึ่งเป็นกิจกรรมที่จริงจังและต้องทุ่มเทหนักหนา กว่าจะถึงบ้านก็หมดแรง ก็จะรีบทำการบ้าน แล้วเตรียมตัวเข้านอน พอหัวถึงหมอน คือ หลับสนิททันที ไม่ต้องทุกข์กับความคิดมากฟุ้งซ่าน
ครั้นโตเป็นทีนเอจ ซิโมน ซึ่งเรียนชั้นมัธยมต้น ยังตัวเล็กเหลือเกิน เธอสูงเพียง 148 เซนติเมตร เธอถูกเพื่อนๆ รังแกด้วยวาจาเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปมเกี่ยวกับแขนโตมีกล้ามเป็นมัด อันเป็นธรรมดาของนักกีฬายิมนาสติก เธอเล่าว่า ตลอดปีตลอดชาตินั้น เธอสวมเสื้อสเวตเตอร์บ้าง เสื้อแจ็กเก็ตกันลมบ้าง เพื่อปกปิดท่อนแขน
ขณะที่เด็กหญิงผู้ซึ่งเล่นยิมนาสติกด้วยพรสวรรค์จนเก่งฉกาจเกินใคร เติบโตเป็นสาว ได้เลื่อนระดับเวทีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ อัจฉริยภาพจากพรสวรรค์และพรแสวงก็มีอันจะต้องถูกบั่นทอนลงบ้างเป็นครั้งคราวด้วยพิษสงของเสียงแห่งความหวั่นไหวผวาวิตกภายในใจ
และแล้วอาการป่วยทางจิตใจก็ถึงจุดวิกฤติเข้าอย่างปุบปับในวัย 16 ปี เมื่อศักราช 2013 โดยมีตัวลั่นไกคือแบดเซอร์ไพรส์ขั้นสุด ในระหว่างที่เข้าแข่งขันมหกรรมยิมนาสติกส์รายการใหญ่ประจำฤดูซัมเมอร์อย่าง 2013 US Classic Gymnastics ที่ชิคาโกในเดือนกรกฎาคม 2013
ดรามาชีวิตที่ไม่คาดฝันกันเลยนี้ มีความเป็นมาคือ คุณยายเนลลีเห็นว่าชิคาโกกับโคลัมบัสอยู่ห่างกันไม่มาก (ไม่เหมือนกับฮิวสตันกับโคลัมบัส) คุณยายจึงมองว่าควรจะมีน้ำใจเชิญคุณแม่แชนนอนมาเชียร์น้องซิโมน เว็บไซต์แอนสเคปดอทคอมรายงาน
ผลที่เกิดขึ้นนั้นร้ายแรงสุดๆ ผู้คนกระซิบกันมากมายเกี่ยวกับผู้หญิงที่เรียกตนเองว่าคุณแม่ของซิโมน สาวน้อยมหัศจรรย์ขวัญใจประชาชน
ขณะที่ซิโมนนั้นเสียสมาธิและรู้สึกสับสน กระทั่งว่าเธอถึงกับร่วงตกพื้นในการแข่งขันรายการหนึ่ง แอนสเคปดอทคอมเล่าไว้อย่างนั้น
ด้านนิวยอร์กโพสต์รายงานเรื่องราวนี้ด้วยว่า หลังจากทำผลงานการแข่งขันยิมนาสติกได้ย่ำแย่สุดๆ ความมั่นใจของซิโมนตกต่ำอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ซิโมนตระหนักแล้วว่าตัวเองมาถึงจุดที่เกินกว่าจะผัดผ่อนไม่ลุกขึ้นแก้ปัญหาลึกๆ ที่แสนจะเรื้อรัง เธอตัดสินใจไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
สาวน้อยวัย 16 เข้ารับการรักษาจากนักจิตบำบัดการกีฬา แต่อานิสงส์ตรงนี้มีอายุใช้งานจำกัด แล้วจิตใจไปแตกหักกลายเป็นดรามาใหญ่โตที่โอลิมปิกส์โตเกียว ก่อนจะปรับวิธีเยียวยาดูแลสุขภาวะของจิตใจ
เมื่อสาวน้อยซิโมนผู้เก่งฉกาจเป็นที่ชื่นชมของชาวอเมริกัน ตัดสินใจไปเยียวยารักษาตนเอง เธอเข้าไปปรึกษานักจิตบำบัดการกีฬาในนครฮิวสตัน นักจิตบำบัดการกีฬานามว่า โรเบิร์ต บี. แอนดริวส์ ช่วยซิโมนได้อย่างเหลือเชื่อ
อาจารย์โรเบิร์ตช่วยให้ซิโมนดูแลจัดการความเครียดผวาวิตกต่างๆ อีกทั้งนำเอาพลังแรงๆ ด้านในไปยกระดับทักษะความชำนาญในการกีฬา นิวยอร์กโพสต์รายงาน
“หลังจากได้ฝึกกับโรเบิร์ต ดิฉันฟื้นตัวขึ้นมา และดึงความมั่นใจกลับมาได้ค่ะ” ซิโมนเล่าเปิดใจไว้ในสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์เมื่อปี 2014
ที่สำคัญคือ ผู้เชี่ยวชาญโรเบิร์ตสอนวิธี “สงบใจลงมา” หลังเสร็จการแข่งขัน ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นซึ่งมีความบกพร่องของเคมีในสมองส่วนหน้า มักจะมีปัญหาความฟุ้งซ่าน กังวล ลุกลี้ลุกลน หนักกว่าบุคคลทั่วไป
“ดิฉันพบว่าตัวเองจริงจังกับสารพัดเรื่องมากเกินไปค่ะ การได้ฝึกกับโรเบิร์ตช่วยลดความกลัวต่างๆ ได้จริงๆ ความมั่นใจฟื้นฟูกลับขึ้นมาด้วยค่ะ” ซิโมนเล่าในสัมภาษณ์ นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่าใจของเธอจะไม่ยอมแล้ว ที่จะปล่อยให้ความคาดหวังของผู้อื่นเข้าไปกดดันบั่นทอนตัวเอง
สามเดือนต่อมา ซิโมนคว้าเหรียญระดับโลกได้เป็นครั้งแรก คือเหรียญทองแดงประเภทคานทรงตัว ในมหกรรมการแข่งขัน 2013 World Artistic Gymnastics Championships ที่นครแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ในเดือนตุลาคม 2013
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีบริหารจัดการจิต เป็นวิธีบังคับจิต ซึ่งเรียกกันว่าเป็นการเอาหินทับหญ้า (จัดการด้วยวิธี “กด” ความคิดความรู้สึกอันไม่น่าพึงปรารถนา ไม่ให้มันขยับเขยื้อนขึ้นมาแผลงฤทธิ์) วิธีแบบนี้มีข้อจำกัดว่า ความสามารถที่จะกดความคิดกดความรู้สึกได้อย่างชะงัด นั้น สร้างสัมฤทธิผลได้เพียงระยะเวลาหนึ่ง
กรณีของซิโมน ไบล์ส ระยะดังกล่าวยืนยาวราว 5-7 ปีก่อนที่พลังจิตพลังใจของเธอจะล่มสลายลงในกลางปี 2021 แต่ในระหว่างหลายปีเหล่านั้น ก็ช่วยให้ซิโมนมีหนังสืออัตชีวประวัติ 1 เล่ม และสร้างผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่ ริโอเดจาเนโร 2016 โอลิมปิกเกมส์
เมื่อการบริหารจัดการจิตทยอยๆ ที่จะเอาไม่อยู่กับปัญหาจิตฟุ้งซ่าน จิตฟุ้งซ่านของซิโมนจึงออกมาอาละวาดอย่างอิสระอยู่ในความรู้สึกนึกคิดมากขึ้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2018 ช่วงที่เธอกลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงและเด็กสาว 265 ราย ซึ่งตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศโดย น.พ.แลร์รี วาสซาร์ แพทย์ใหญ่แห่งทีมนักกีฬายิมนาสติกหญิงทีมชาติสหรัฐฯ
ในเวลาเดียวกัน ยังมีเรื่องน่าหนักใจเกี่ยวกับคุณแม่แชนน่อนอีกด้วย นอกจากการติดสุราและติดยาเสพติดแล้ว แชนนอนยังติดหนี้บัตรเครดิตถึง 21 บริษัท รวมเป็นภาระหนี้ทั้งสิ้น 14,234 ดอลลาร์ ตลอดจนเงินกู้เรียนหนังสือดั้งเดิมอีก 3,834 ดอลลาร์
ในที่สุด ปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวไปถึงจุดสูงสุด เมื่อแชนน่อนถูกฟ้องล้มละลายในเดือนตุลาคม 2018 ปัญหาทำนองนี้น่าจะเป็นอะไรที่ไปถึงจุดซึ่งคุณตาโรนัลด์เลิกยุ่งด้วยแล้ว และซิโมนก็น่าจะไม่เข้าไปเช่นกัน แต่ในทางจิตใจ ซิโมนย่อมจะปวดใจ ไม่อยากมีมารดาที่เป็นอย่างนี้
อาการทางจิตใจของซิโมนคือทุกข์ตรมหนัก เธอเขียนระบายไว้บนโซเชียลมีเดียเมื่อปี 2018 ซึ่งนอกจากจะเอ่ยถึงความคิดอยากปลิดชีพตนเอง เธอยังบอกถึงบางอย่างที่สะท้อนว่าเธอบริหารจัดการจิตใจไม่ค่อยจะไหวแล้ว
“พวกคุณส่วนใหญ่มองว่าฉันเป็นผู้หญิงแสนสุข หัวเราะร่าเริง กระตือรือร้น แต่หลังๆ มานี้ ... ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย
“และยิ่งฉันพยายามจะหยุดเสียงในหัว เสียงนั้นก็ยิ่งแผดดังมากขึ้น” นิวยอร์กโพสต์รายงานข้อความบนไอจีของซิโมน
เมื่อถึงปี 2020 สถานการณ์ล็อกดาวน์ประเทศอันเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบมากมายต่อสุขภาพใจของซิโมน เดลิเมลออนไลน์เล่าว่า เนื่องจากการแข่งขันโอลิมปิกส์โตเกียว 2020 ต้องถูกเลื่อน ดังนั้น การฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงของนักกีฬาทั้งปวงถูกระงับ ซิโมนจึงไม่มีตารางฝึกซ้อมโหดๆ ทั้งหลายที่เคยช่วยให้ได้ระบายความตึงเครียด และเคยช่วยให้ไม่มีเวลาได้ยินเสียงฟุ้งซ่านในหัว อีกทั้งเคยช่วยให้ลืมๆ ปัญหาทั้งปวง
ในที่สุด มหกรรมโอลิมปิกส์โตเกียว 2020 ก็มีขึ้นในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2021 แต่ก็เป็นไปแบบที่ไม่ให้ประชาชนเข้าชมแม้แต่รายการเดียว โดยให้ชมผ่านสตรีมมิ่ง ยิ่งกว่านั้น ชาวต่างชาติก็ไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น การแข่งขันยิมนาสติกครั้งสำคัญนี้ เป็นครั้งแรกที่คุณตาคุณยายไม่สามารถตามไปเป็นกำลังใจ
สถานการณ์นี้กระทบความรู้สึกของซิโมน และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ซ้ำเติมสุขภาพจิตใจของเธอ
ซิโมนพูดกับผู้อำนวยการคณะนักกีฬาอเมริกันว่า การที่ไม่มีคุณตาคุณยายตามไปเป็นเชียร์เวลาที่เธอแข่งขัน เป็นหนึ่งในสิ่งต่างๆ ที่ทำให้สถานการณ์รอบตัวเธออึดอัดคับข้องใจ นิตยสารพีเพิลรายงาน
“เราเดินทางไปถึงโตเกียว แต่ไม่มีการอนุญาตให้ผู้ชมเข้าดูเราแข่ง เราถูกกักตัวให้อยู่แต่ในห้อง และออกมาได้เฉพาะแค่ออกไปทานอาหารเช้า กลางวัน และเย็น เท่านั้น ทุกคนคาดหวังให้เราเล่นแข่งกันให้เป็นปกติ เราไม่มีกองเชียร์ และคุณตาคุณยายของฉันก็ไม่สามารถตามมาโตเกียวมาเชียร์ฉันได้”
สภาพการณ์ทางจิตใจของซิโมนที่ไม่สู้ดีมาอย่างต่อเนื่อง ถูกความกดดัน ความคับข้องใจ กระหน่ำๆๆๆ ไปถึงจุดแตกหัก
ปรากฏการณ์แห่งจิตใจที่ป่วยไข้หนักหนา - เดี้ยงกันให้เห็นชัดๆ ไปปรากฏต่อสายตาชาวโลก เมื่อเธอแข่งขันยิมนาสติกม้ากระโดด อันเป็นส่วนหนึ่งของแมตช์รวมอุปกรณ์ทีมหญิงเมื่อ 26 กรกฎาคม 2021 ซึ่งอยู่ในห้วงการแข่งขันโอลิมปิกส์โตเกียว 2020 ระหว่าง 23 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2021 (มาจัดกันล่าช้าในปี 2021 เนื่องจากปัญหาสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19)
ทั้งนี้ อาการป่วยทางจิตใจส่งผลไปยังการเล่นท่าอามานาร์ ม้ากระโดด Amanar Vault ซึ่งต้องหมุนควงสว่านร่างกายที่เหยียดตรงรวม 3 รอบกลางอากาศ ก่อนจะแลนดิ้งลงไปยืนสง่าบนพื้น แต่ก็ปรากฏขึ้นมาว่าจิตใจของซิโมนตกอยู่ในอาการ Twisties คือไม่สามารถรับรู้ทิศทางได้ เธอจึงหมุนเพียงหนึ่งรอบครึ่ง แล้วลงมาแลนดิ้งแบบที่แทบจะไม่สามารถยืนไหว ร่างกายของเธอทรุดลงเกือบจะนั่งราบกับพื้น!! ก่อนจะฝืนทะยานขึ้นหน้าหนึ่งก้าว แล้วยืนชูมือแจ้งทราบว่าจบชุดการแข่งขัน เดอะการ์เดียนรายงาน
เดี้ยงหนักถึงปานนั้น ซิโมนจึงไม่อาจที่จะเกรงใจใครมากกว่าตนเอง ไม่อาจที่จะเห็นแก่ใครมากกว่าตนเอง เธอตัดสินใจเลยว่ามันไม่คุ้มค่าที่เธออดอั้นความเจ็บป่วยแห่งสุขภาพใจได้อีกต่อไปแล้ว เพราะถ้าดันทุรังแข่งต่อ ในคราวถัดไปที่เกิดอาการ Twisties อีก เธออาจจะไม่สามารถประคองตัวได้เท่ากับครั้งนี้ โดยอาจจะได้รับบาดเจ็บรุนแรงโดยไม่ใช่ที่เลย
ดังนั้น ซิโมนแจ้งความประสงค์ที่จะถอนตัวจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ทันที ซึ่งหมายถึงว่าจะไม่ร่วมแข่งขันชิงเหรียญทองของรายการรวมอุปกรณ์ทีมหญิง ในวันรุ่งขึ้น 27 กรกฎาคม 2021 ในการนี้ ปรากฏผลออกมาว่าทีมชาติสหรัฐฯ ได้เหรียญเงิน
นิวยอร์กโพสต์รายงานว่าหลังจากมีผลงานผิดพลาดในวันที่ 26 กรกฎาคม 2021 ซิโมนดูเหมือนว่าพร้อมจะเกริ่นให้แฟนคลับทราบถึงปัญหาที่เธอต่อสู้อยู่อย่างเจ็บปวด เธอเปิดใจบนอินสตาแกรมว่า
“จริงๆ นะ หลายครั้งเลยที่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าภาระของโลกทั้งใบกองอยู่บนบ่า
“ฉันรู้ว่าฉันแค่ปัดมันออกไปได้ชั่วคราว และทำให้เหมือนกับว่าแรงกดดันทั้งหลายไม่มีผลต่อกายใจตนเอง แต่บางครั้งมันยากเหลือเกินค่ะ ฮาฮาฮ่า! โอลิมปิกไม่ได้ง่ายๆ อย่างนั้นเลยค่ะ” นิวยอร์กโพสต์รายงานเมื่อ 28 กรกฎาคม 2021
คณะกรรมการยิมนาสติกส์แห่งสหรัฐอเมริกาออกคำแถลงในวันที่ 27 กรกฎาคม 2021 ประกาศว่าซิโมน ไบล์ส ขอถอนตัวเพราะปัญหาทางการแพทย์
ในวันเดียวกันนั้นเอง หลังจากที่ทีมชาติสหรัฐฯ ทำได้แค่เหรียญเงินจากการแข่งขันรวมอุปกรณ์ทีมหญิงแล้ว ก็มีการจัดแถลงข่าวต่อเลย โดยซิโมนบอกใบ้อย่างจริงจังมากขึ้นเกี่ยวกับภาระบนบ่า
“เมื่อใดก็ตามที่คุณตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดสูง คุณจะสติแตกคุมอารมณ์แทบไม่ได้เลย ดิฉันต้องหันมาเน้นการดูแลสุขภาพจิตใจตัวเอง และจะไม่ปล่อยปละให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดี
“คนเราล้วนแต่จะต้องปกป้องร่างกายและจิตใจ ... มันห่วยอย่างยิ่งเลยนะคะที่ต้องต่อสู้กับสิ่งที่อยู่ในหัว” นิวยอร์กโพสต์รายงานอย่างนั้น
รักษาความป่วยไข้ของจิตใจเพียงหนึ่งปี ก็คลี่คลาย ปี 2023 กลับสู่สนามแข่งขันระดับโลก ปี 2024 ซิโมนคว้า 3 เหรียญทอง และนั่งทำกรรมฐานฟื้นสมาธิตั้งมั่น แก้ปัญหาฉุกเฉินข้างเวทีแข่งขันกันเลยทีเดียว
ในการเว้นวรรคพักออกจากการแข่งขันยิมนาสติกช่วงครึ่งหลังของปี 2021 จดจนกลางปี 2022 ซิโมนบำบัดรักษาสุขภาพจิตใจอย่างเอาจริงเอาจัง ซึ่งก็ปรากฏว่าซิโมนมีแต้มบุญมากล้น นักจิตบำบัดการกีฬาช่วยเหลือให้เธอเยียวยารักษาจิตใจตนเอง จนกระทั่งฟื้นคืนฟอร์มเก่งได้อย่างรวดเร็ว เพียงประมาณหนึ่งปีก็สามารถกลับมาเล่นยิมนาสติกได้ในศักราช 2022 เพียงแต่จะยังไม่เล่นท่าม้วนตัวกลางอากาศ เธอให้สัมภาษณ์กับหลายๆ ค่ายสื่อมวลชนว่า ยังหวั่นๆ ปัญหา Twisties จึงยังไม่กล้า ยังไม่มั่นใจ
อีกหนึ่งปีผ่านไป ซิโมนก็สามารถหวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่แห่งเวทียิมนาสติกโลกได้อย่างเหลือเชื่อ ในช่วงกลางปี 2023 เธอเข้าร่วมรายการแข่งขัน 2023 World Artistic Gymnastics Championships ณ เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม เดอะการ์เดียนรายงานโดยให้ข้อมูลว่าซิโมนนำทีมสหรัฐฯคว้าเหรียญทองรวมอุปกรณ์ทีมหญิง อีกทั้งยังกวาดเหรียญทองของตนเอง 3 รายการ (รวมอุปกรณ์ คานทรงตัว และฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์) กับเหรียญเงินอีก 1 รายการ (ม้ากระโดด)
ศักยภาพของซิโมนเฉียบขาด แข็งแกร่ง และมั่นใจกว่าเดิม และที่เพิ่มเติมเป็นพิเศษคือ เธอมีออร่าที่นิ่งสงบสบายมากขึ้น
ณ โต๊ะแถลงข่าววันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2024 หลังคว้าทองเหรียญที่ 2 ให้แก่ทีมยิมนาสติกหญิง ณ สนามโอลิมปิกส์ปารีส ซิโมนบอกว่าเธอให้ความสำคัญแก่การดูแลสุขภาพจิตเป็นอันดับแรก ซึ่งรวมถึงการเข้าเซสชันจิตบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
“วันนี้ ตอนเจ็ดโมงเช้า ดิฉันคุยกับนักจิตบำบัด เพื่อให้แน่ใจว่าจิตใจของดิฉันสบายดี คิดว่าคุณนักข่าวคงมองออกในตอนที่ดิฉันแข่ง” ซิโมนกล่าวบนเวทีแถลงข่าว
นิตยสารพีเพิลรายงานอย่างนั้น พร้อมบอกว่าซิโมนสะท้อนภาพให้เห็นได้ว่าในสามปีที่ผ่านมา เธอก้าวข้ามปัญหาปมทุกข์ตรมและพัฒนาขึ้นได้อย่างมากมาย นับจากที่ถอนตัวจากการแข่งขันโอลิมปิกส์โตเกียว
โดยเป็นอานิสงส์จากการทำจิตบำบัด ซึ่งมีการทำสมาธิลมหายใจเข้าไปช่วย จุดเด่นประการหนึ่ง คือ การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากที่ได้ทุ่มเทอย่างดีที่สุดแล้ว
ซิโมน ไบลส์ สร้างผลงานเหนือชั้นสุดๆ โดยในโอลิมปิกสปารีสครั้งนี้ครั้งเดียว เธอคว้าเหรียญทอง 3 เหรียญ (รวมอุปกรณ์ทีม รวมอุปกรณ์หญิงเดี่ยว ม้ากระโดด) และเหรียญเงิน 1 เหรียญ (ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์) ซึ่งเป็นแมตช์ที่เธอพลาดเล็กพลาดน้อยและจึงถูกหักคะแนน ทั้งนี้ ใจของซิโมนยอมรับว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ดังนั้นเออร์เรอร์เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้
ท่านผู้ชมจึงได้เห็นบรรยากาศน่ารักระหว่างซิโมนกับนักกีฬาคู่แข่งจากบราซิล โดยในตอนขึ้นรับเหรียญเงิน ซิโมนอารมณ์ดีมีความสุขกับความสำเร็จของคู่แข่งจากบราซิล มีการเล่นมุกโค้งคารวะแชมป์อย่างครึกครื้น ทุกคนมีความสุข ถ่ายภาพเซลฟีกันสนุกสนาน
ส่วนรายการแข่งขันที่ซิโมนพลาดเยอะและไม่ได้เหรียญเลย ได้แก่ คานทรงตัว เป็นรายการที่พลาดตกจากคานด้วยกัน 2 คน คือ ซิโมน และน้องร่วมทีมชาติ คือ สุนิสา ลี อย่างไรก็ตาม ซิโมนแสดงความนิ่งและความฉับไวอย่างยิ่งในตอนที่เสียหลักและรู้ตัวว่ายืนบนคานไม่อยู่แน่นอน ซิโมนโดดเบาๆ ลงจากคานไปตามโมเมนตัมที่เสียหลักซะเลย
ทั้งนี้ สีหน้าแววตาของเธอไม่เซ็งไม่โกรธตัวเองอะไรมากมาย ประมาณว่าของมันพลาดกันได้ แล้วเธอกลับขึ้นคานทรงตัวและเล่นต่อเนื่องไปอย่างเฉียบขาด แถมมีทีเด็ดงดงามในตอนจบ เธอทำลังกาหลัง 3 ม้วนจากคานลงสู่พื้นอย่างเป๊ะปังมั่นใจสุดๆ
ข้อคิดที่ซิโมนมอบให้ท่านผู้ชมนำกลับบ้าน คือ แข่งขันอย่างเต็มที่ และมีความสุขกับภารกิจ ซึ่งหากเกิดสิ่งไม่น่าพึงปรารถนา ก็ยอมรับความจริง เพราะการโกรธ อับอาย เซ็ง หรือเสียความรู้สึก มิใช่ปัจจัยที่จะแก้ไขให้อะไรดีขึ้น หนำซ้ำยังเป็นการบั่นทอนตนเองโดยไม่จำเป็น
ด้านนิตยสารฟอร์จูนจัดทำสกู๊ปเล่าว่า ซิโมนฝึกจิตใจให้เป็นแชมเปียนอย่างไร โดยเล่ากลยุทธ์สำคัญคือ ความสำเร็จทั้งหลายอิงอยู่กับการฝึกฝนจิตใจ ประโยคสำคัญนี้ ซิโมนประกาศไว้ในระหว่างสอนมาสเตอร์คลาสในประเด็นรากฐานของยิมนาสติก การเอาชนะความกลัว และการตั้งเป้าหมาย
และสำหรับผู้ที่ไล่ล่าความยิ่งใหญ่ความเป็นเลิศในสาขาใดๆ ก็ตาม ซิโมนบอกให้เตือนใจตนเองว่า “เราทำได้ ต้องมีความมั่นใจ และคิดทบทวนถึงทุกสิ่งที่ได้ทำมาในระหว่างฝึกฝน”
พร้อมกันนั้น ซิโมนให้เทคนิคที่ต้องมีเพื่อความสำเร็จ ดังนี้
***ไปก่อนเวลาเริ่มกิจกรรมอย่างน้อย 10 นาทีเสมอ เพราะคุณไม่ควรจะวิ่งล่กๆ เพื่อจะไปให้ทันคลาสฝึกฝน และก็ไม่ต้องครีเอทข้ออ้างบอกโค้ชว่าทำไมคุณจึงไปสาย ที่สำคัญ คุณต้องให้ตัวเองมีเวลาเคลียร์สมองเคลียร์ใจก่อนจะเริ่มกิจกรรม วินัยเป็นสิ่งสำคัญ ทุกวันนี้ดิฉันจะดูแลตัวเองให้แน่ใจได้ว่าในช่วงวีคเอนด์จะไม่ไปบ้าระห่ำกับอะไรเกินไป เพื่อที่ว่าในเช้าวันจันทร์ ดิฉันจะพร้อมและมีพลังไว้ใช้ตลอดสัปดาห์
***ในยามที่เครียดและกังวล ให้นับเลขสร้างสมาธิ ทั้งนี้ ซิโมนบอกว่าตอนที่แข่งรายการคานทรงตัว เธอจะมีเวลาโชว์แค่ 90 วินาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอจะทำเต็มที่ ทุ่มเทออกไปทั้งหมดทั้งมวล
“90 วินาทีไม่ใช่อะไรที่ยาวนาน แต่ตอนอยู่บนนั้น คุณอาจจะรู้สึกเหมือนมันยิงยาวไปตลอดกาล ในความเครียดแบบนี้ซึ่งทำให้ยากจะโฟกัส ดิฉันจะช่วยโดยการนับเลข มันช่วยให้ใจตั้งมั่นอยู่กับสิ่งเฉพาะหน้า” ซิโมนบอกไว้อย่างนั้นในชั้นเรียน
***มองมุมขำๆ เมื่อใจตึงเครียด “ฉันจะฝึกอย่างนี้อีก 100 ครั้ง ฉันรู้ว่าฉันแก้ปัญหาได้” ซิโมนเผยเคล็ดลับของตนไว้อย่างนั้น
“ฉันจะพยายามเตือนตนเองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าโลกจะล่มสลายหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เดี๋ยววันพรุ่งนี้ก็จะมา”
สุขภาพจิตใจที่แข็งแรง เอื้อให้ซิโมนเคลียร์ปมเก่าแก่เรื้อรังเรื่องคุณแม่ ได้อย่างผู้มีวุฒิภาวะสูง
ดรามาชีวิตของซิโมนมีหลายเรื่องชวนติดตาม โดยเรื่องหนึ่งซึ่งดึงดูดความสนใจของท่านผู้ชมเป็นพิเศษ น่าจะเป็นกรณีที่คุณแม่แชนน่อน ไบล์ส พยายามอย่างเหลือเกินที่จะกลับเข้าสู่ชีวิตของซิโมน ลูกสาวผู้ร่ำรวยและโด่งดัง อย่างเต็มตัว ทั้งที่รู้แก่ใจว่าหมดสิทธิแล้วนับแต่ที่ลงนามในหนังสือมอบลูกๆ ทั้ง 4 ให้เป็นบุตรของโรนัลด์ ไบล์ส คุณพ่อของเธอ และคุณตาของซิโมนเมื่อปี 2003 หลังจากที่แชนน่อนถลำลึกในสุรา ยาเสพติด และคดีอาชญากรรม ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เธอเข้าๆ ออกๆ คุก และลูกก็ต้องเข้าไปอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า
ขณะที่เรื่องเศร้าน่าปวดร้าวใจเหล่านี้ล้วนเป็นบาดแผลฝังลึกในใจของเด็กๆ แต่คุณแม่แชนน่อนก็ไม่เอาจริงกับการเปลี่ยนแปลงตนเองมาเป็นคุณแม่ปกติได้สำเร็จ ถึงขนาดที่ว่าใน 6 ปีแรกที่คุณตาโรนัลด์ช่วยเอาน้องๆ ออกไปจากการเป็นภาระของเธอ นำไปเลี้ยงดูอย่างดี ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มั่นคงและอิ่มท้อง มีอนาคตดีงามรออยู่ข้างหน้า นั้น แชนน่อนก็ทำเรื่องกระทั่งว่าคุณพ่อห้ามเธอติดต่อพบปะพูดคุยกับลูกๆ จนกว่าเธอจะละเลิกยาเสพติดได้จริง
เวลาผ่านไป 19 ปี จรดจนปี 2022 คุณแม่แชนน่อนจึงตั้งต้นเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยเดลิเมลออนไลน์เล่าว่านับจากปี 2022 เธอเอาจริงกับการอยู่ให้ห่างปัญหา โดยหลีกเลี่ยงสถานที่ ผู้คน และสิ่งต่างๆ ที่จะดึงเธอกลับสู่ยาเสพติด
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะเข็ดหลาบแล้วกับการเผชิญกับบรรดาบทเรียนชีวิตหนักหน่วง อาทิ การถูกฟ้องล้มละลายด้วยหนี้สินประมาณ 5 แสนบาทเมื่อปี 2018 การถูกดำเนินคดีอาชญากรรมและคดีจราจรต่างๆ รวม 36 คดี โดยคดีสุดท้ายในปี 2019/20 เป็นคดีอาญาร้ายแรงกรณีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งศาลให้รอลงอาญาและทำทัณฑ์บนไว้ถึงปี 2022
คุณแม่แชนน่อนบอกกับเดลิเมลออนไลน์ว่า สองสามปีมานี้ เธอได้กลับเนื้อกลับตัว เลิกละสุราและยาเสพติดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว และรอให้ซิโมนติดต่อมาบอกให้อภัยแก่เธอ มาคืนดีเป็นครอบครัวด้วยกัน
ความพยายามของคุณแม่แชนน่อนที่จะฟื้นความสัมพันธ์แม่-ลูกกับซิโมนปรากฏให้สื่อรับทราบอย่างเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่ปี 2015 หลังจากที่ซิโมนชนะการแข่งขันได้เป็นแชมป์โลกในปี 2013 และมีรายได้มากมายจากงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หลั่งไหลเข้าไปล้นหลาม อีกทั้งมีโอกาสที่จะติดทีมชาติ ไปแข่งยิมนาสติกสากลในมหกรรมโอลิมปิกส์ 2016 ที่กรุงริโอ เดจาเนโร ซึ่งจะยิ่งต่อยอดความป๊อปปูลาร์และพลังการตลาดของเธอ
สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้คุณแม่แชนน่อนไม่ประสบความสำเร็จเสียที ทั้งที่วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป 8-9 ปีแล้วนั้น ยังไม่มีท่านใดในฝั่งคุณตาโรนัลด์เล่าสู่สื่อมวลชน ซึ่งอาจจะเพราะมันเป็นการสาวไส้ให้กากิน อื้อฉาวโดยใช่เหตุ ขณะที่แชนน่อนซึ่งคุยกับนักข่าวหลายรอบแล้ว ก็ไม่ได้เล่า ซึ่งอาจจะเพราะมันไม่เป็นผลดี
แต่ก็มีประเด็นหนึ่งที่คุณแม่แชนน่อนพูดถึง คือ ในฝั่งทางบ้านของคุณพ่อเธอรู้สึกอับอายที่เธอเป็นขี้ยาขี้คุก แต่ความคิดเห็นของท่านผู้ชม ณ ท้ายข่าวเดลิเมลออนไลน์เขียนตรงกันเยอะมากว่า เธอน่าจะทำเรื่องไว้กระทั่งว่าไม่ไหวจะเคลียร์ และการอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ น่าจะเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกคน
และอีกประเด็นที่ความคิดเห็นท้ายข่าวเขียนตรงกันเนืองแน่น คือ ฝ่ายต่างๆ ดูว่าความพยายามของคุณแม่แชนน่อน มีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่เรื่องเงินทอง โดยหลายหลากรายชี้ว่าถ้าเป็นเรื่องของความรักความผูกพัน แชนน่อนควรไปต่อสายกับลูกๆ อีก 3 คนซึ่งมิได้ร่ำรวยหรือมีชื่อเสียง ก็น่าจะสำเร็จและอบอุ่นใจได้บ้าง แต่แชนน่อนก็มิได้ไปใช้ความพยายามกับลูกทั้ง 3 คนเหล่านั้นเลย
ความเห็นรายหนึ่งเตือนสติว่า ซิโมนเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากซิโมนประสงค์จะรื้อฟื้นสัมพันธ์แม่ลูกกับแชนน่อน ซิโมนย่อมทราบดีว่าจะต้องทำอะไรบ้าง แต่ในเมื่อซิโมนไม่ทำอะไรมานานกว่าสิบปีแล้ว ก็น่าจะตระหนักถึงคำตอบที่ปรากฏแจ่มแจ้งได้
ด้านเว็บไซต์ข่าวทีวีบนยูทูป ช่อง Culture Spill รายงานถึงคำให้สัมภาษณ์ของซิโมนที่คุยกับพอดแคสต์ Call My Daddy ในเดือนเมษายนปีนี้ โดยแตะถึงเรื่องสาแหรกของครอบครัว ซึ่งซิโมนกล่าวโดยไม่ได้พูดถึงคุณแม่แชนน่อน และมุ่งเพียงจะพูดถึงคุณตาคุณยายกับคุณน้าชายเท่านั้นว่า คุณตามีศักดิ์เป็นคุณพ่อ ส่วนลูกชายของคุณตาย่อมเป็นคุณน้า แต่ก็มีศักดิ์เป็นพี่ชายเธอ เรื่องมันสับสนอยู่สักหน่อย เล่าลำบาก
“เอาเป็นว่าคุณตาคุณยายคือคุณพ่อคุณแม่ของดิฉันค่ะ ดิฉันถูกเลือกไว้แล้ว ดิฉันได้รับพรมาอย่างนั้นค่ะ”
พร้อมนี้ รายงานของ Culture Spill นำเสนอชัดเจนเสมอว่า ซิโมนไม่พูดถึงคุณแม่ และจะมุ่งพูดถึงแต่คุณตาคุณยาย ซึ่งมีพระคุณต่อเธออย่างที่สุด โดยบอกว่าเธอมีความสุขจริงๆ ที่ได้รับโอกาสครั้งที่ 2 ของชีวิตในความดูแลของคุณตาคุณยาย เธอเชื่อว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายกำหนดไว้แล้ว เธอจึงรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ได้รับที่ทำให้เธอได้โอกาสที่จะมีชีวิตดีขึ้น
วิธีตอบคำถามเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งสะท้อนถึงคุณแม่แชนน่อนอยู่ในที เยี่ยงนี้ อาจชี้ได้ว่าเป็นวิธีที่บอกอย่างสุภาพว่า ครอบครัวของเธอประกอบด้วยคุณตาคุณยายเท่านั้น โดยเป็นการบอกอย่างแจ่มแจ้ง แต่เลือกใช้ถ้อยคำที่ไม่ทำให้คุณแม่แชนน่อนเสียหน้าหรือเสียน้ำใจนั่นเอง
การที่ลูกสาวซึ่งได้รับประสบการณ์ปวดร้าวฝังใจจากคุณแม่ แต่ก็ยังเลือกถ้อยคำที่หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียน้ำใจ อีกทั้งไม่แตะไปถึงความปวดร้าวของตนเอง โดยปล่อยให้อดีต เป็นอดีตที่จบไปแล้ว นับเป็นวุฒิภาวะที่ดีงาม ซึ่งซิโมนมีญาณทัศนะได้ขนาดนี้ ก็น่าจะเป็นอานิสงส์จากจิตใจที่เคยบอบช้ำป่วยไข้ แล้วได้รับการบำบัดรักษาเยียวยาจนกระทั่งกลายเป็นจิตใจที่แข็งแรงและมีปัญญา
Culture Spill จบรายงานด้วยการประเมินว่า
“ซิโมนกล่าวแบบผู้ที่พึงพอใจอย่างซูเปอร์แฮปปี้กับจุดที่ตนดำรงอยู่ในปัจจุบัน”
คอลัมน์ PLANET No.3
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เดลิเมลออนไลน์ นิวยอร์กโพสต์ พีเพิล เดอะการ์เดียน เอพี ซีเอ็นเอ็น เอบีซีนิวส์ แอนสเคปดอทคอม คัลเจอร์สปิลล์ คอสโมโปลิแทน คอลล์มายแด๊ด)