ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี คุยอวดเกี่ยวกับ "ขีปนาวุธโดรน" ของยูเครนที่พัฒนาใหม่ล่าสุด เมื่อวันเสาร์ (24 ส.ค.) ที่เขาบอกว่าจะใช้นำสงครามย้อนศรกลับไปหารัสเซีย และกล่าวดูถูกเหยียดหยามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ว่าเป็น "คนป่วยสูงวัยจากจัตุรัสแดง"
ในระหว่างที่ยูเครนฉลองครบรอบ 33 ปีของการประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียต เซเลนสกีอวดอ้างว่าอาวุธใหม่ที่ชื่อ Palianytsia มีความเร็วมากกว่าและทรงอานุภาพมากกว่าบรรดาโดรนอื่นๆ ที่ผลิตเองในประเทศ ที่เคียฟใช้โจมตีตอบโต้กลับรัสเซียจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเล่นงานโรงกลั่นน้ำมัน หรือสนามบินของกองทัพรัสเซีย
"ศัตรูของเราจะได้รู้ว่า แนวทางแก้แค้นของยูเครนคืออะไร มันเป็นการแก้แค้นที่คู่ควร สมน้ำสมเยื้อและพิสัยไกล" เขากล่าว พร้อมบอกว่าอาวุธคลาสใหม่ของยูเครนเคยถูกใช้งานและประสบความสำเร็จในการโจมตีใส่เป้าหมายหนึ่งในรัสเซียมาแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าที่ไหน
นอกจากนี้ เขายังใช้ภาษาเย้ยหยันจำกัดความประธานาธิบดีวัย 71 ปีของรัสเซียและโวหารทางนิวเคลียร์ที่ออกมาจากฝ่ายมอสโก "ชายป่วยแก่ๆ คนหนึ่งจากจัตุรัสแดง ซึ่งข่มขู่คนอื่นๆ อย่างไม่ลดละด้วยปุ่มแดง จะไม่สามารถบีบบังคับอะไรเราได้ด้วยเส้นตายที่เขาขีดไว้สำหรับเรา" เซเลนสกีกล่าว
รัสเซียซึ่งโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนนับพัน นับตั้งแต่พวกเขาเปิดฉากรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โวยวายว่าการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน เป็นการก่อการร้าย ทั้งนี้ ทหารมอสโกรุกคืบทางตะวันออกของยูเครน และยึดครองพื้นที่ของประเทศแห่งนี้ไปได้แล้วราว 18%
เซเลนสกี กดดันเหล่าพันธมิตรของเคียฟมานาน ให้ไฟเขียวเขาใช้อาวุธของตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย เพื่อเล่นงานฐานทัพอากาศที่ใช้งานโดยเครื่องบินรบของรัสเซีย ที่ปฏิบัติการโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธและระเบิดนำวิถี
"ผมขอย้ำอีกครั้งว่า การตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับอาวุธใหม่ของเรา ในนั้นรวมถึง Palianytsia คือหนทางแห่งความเป็นจริงในทางปฏิบัติ เนื่องจากพันธมิตรบางส่วนของเรา เตะถ่วงการตัดสินใจอย่างน่าเสียดาย" เซเลนสกีกล่าวในถ้อยแถลง "มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับรัสเซีย เป็นเรื่องยากแม้กระทั่งสรุปอย่างชัดๆ ว่าพวกเขาถูกโจมตีด้วยอะไร" เซเลนสกี กล่าวถึงขีปนาวุธโดรนใหม่ของยูเครน
ปฏิบัติการรุกรานของยูเครนสามารถยึดถิ่นฐานมากกว่า 90 แห่งในแคว้นคูร์สก์ ความเคลื่อนไหวที่รัสเซียประณามว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่และทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย ในขณะที่มันถือเป็นการรุกรานรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับผู้นำโปแลนด์และลิทัวเนีย เซเลนสกีบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในความเคลื่อนไหวเชิงป้องกัน เพื่อหยุดแผนของรัสเซียในการเข้ายึดครองเมืองซูมี ทางภาคเหนือของประเทศ และนอกเหนือจากการจับเชลยศึกและสร้าง "โซนกันชน" เซเลนสกี ระบุว่าปฏิบัติการนี้ยังมีเป้าหมายอื่นๆ ที่เขาไม่อาจเปิดเผยต่อสาธารณะได้
รัสเซียประณามอย่างหนักหน่วงต่อการใช้อาวุธของตะวันตกในการรุกราน ซึ่ง ปูติน กล่าวว่ามันจะได้รับการตอบโต้อย่างสาสม
วาระครบรอบวันประกาศเอกราชของยูเครนในปีนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญของชาวยูเครนระหว่างการถูกรุกราน ซึ่งโหมกระพือความรู้สึกรักชาติอย่างกว้างขวาง
วันหยุดเนื่องในวันประกาศเอกราชของยูเครนในปีนี้มีขึ้นหลังจากสถานทูตสหรัฐฯ และเยอรมนี ออกถ้อยแถลงเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงระดับสูงของการถูกรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจนถึง 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ยังไม่มีการโจมตีใหญ่ๆ แต่ได้ยินเสียงไซเรนดังขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งในกรุงเคียฟ ในช่วงบ่ายและเย็น
เพื่อรำลึกถึงวาระประกาศเอกราช เซเลนสกีได้ให้สัตยาบันรับรองธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ เปิดทางให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นรัฐภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ หนึ่งในหลายย่างก้าวสำหรับเข้าร่วมสหภาพยุโรป ที่ทางเคียฟให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้ทำการแลกเปลี่ยนเชลยศึก 115 คน โดยทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่ากำลังพลที่ได้รับอิสระของพวกเขา ถูกจับกุมระหว่างที่ยูเครนเปิดปฏิบัติการจู่โจมแคว้นคูร์สก์
(ที่มา : รอยเตอร์)