โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ประกาศยุติการรณรงค์หาเสียงในนามผู้สมัครอิสระเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) พร้อมประกาศสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
หลังจากที่เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนเนดี ได้ไปปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยของ ทรัมป์ ที่รัฐแอริโซนา ท่ามกลางเสียงเชียร์ดึงกึกก้อง
“การลงสมัครรับเลือกตั้งของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวอเมริกันหลายล้านคน และช่วยชูประเด็นปัญหาที่ถูกละเลยเพิกเฉยมานานในประเทศนี้” ทรัมป์ กล่าวถึง เคนเนดี
ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์หลายคนยังไม่แน่ใจว่าแรงสนับสนุนจาก เคนเนดี จะเป็นประโยชน์แค่ไหนสำหรับ ทรัมป์ ซึ่งคะแนนนิยมเริ่มเป็นฝ่ายตามหลัง กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตก่อนศึกเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.
เคนเนดี วัย 70 ปี บอกกับสื่อก่อนหน้านั้นว่า เขาได้พบกับ ทรัมป์ และผู้ช่วยหลายครั้ง และพบว่าทั้งคู่มีจุดยืนร่วมกันหลายอย่างทั้งในแง่ของความมั่นคงชายแดน การสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก และการยุติสงครามในต่างแดน
“แม้จะยังมีอีกหลายเรื่องที่แนวทางของเราแตกต่างกันมาก แต่ในประเด็นสำคัญๆ เราคิดตรงกัน” เขากล่าว
ระหว่างที่ขึ้นเวทีปราศรัยร่วมกัน ทรัมป์ กล่าวว่าหากตนได้กลับไปครองทำเนียบขาวอีกครั้งก็จะตั้งคณะกรรมาธิการของประธานาธิบดีว่าด้วยความพยายามลอบสังหาร และเปิดเผยเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในปี 1963 ให้คนอเมริกันได้รับทราบ
โรเบิร์ต เคนเนดี หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อ RFK Jr. ประกาศว่าจะถอนชื่อตนเองออกจากบัญชีผู้สมัครใน 10 รัฐสมรภูมิสำคัญ (battleground states) ที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินผลเลือกตั้ง แต่จะยังคงรักษาสถานะผู้สมัครไว้ในรัฐอื่นๆ
เคนเนดี เป็นทนายความด้านสิ่งแวดล้อม นักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีน และเป็นบุตรชายและหลานชายของนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลสายเดโมแครต 2 คนที่ถูกลอบสังหารในระยะเวลาห่างกันแค่ 5 ปีในช่วงทศวรรษ 1960 เขาตัดสินใจลงสู่สนามเลือกตั้งเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2023 ในฐานะผู้ท้าชิงกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก่อนที่พรรคเดโมแครตจะมีการคัดเลือกผู้แทนพรรค
การที่คนอเมริกันบางส่วนรู้สึกเบื่อหน่ายความชราของ ไบเดน และคดีความที่รุมเร้าทรัมป์ ทำให้ชื่อของ เคนเนดี จูเนียร์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมา กระทั่งตัวเขาเองตัดสินใจลงสมัครประธานาธิบดีในนามผู้สมัครอิสระ
ผลสำรวจโดยรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อช่วงเดือน พ.ย. ปี 2023 พบว่า เคนเนดี จูเนียร์ มีคะแนนนิยม 20% ในการแข่งขัน 3 ฝ่ายกับ ไบเดน และทรัมป์
ที่มา : รอยเตอร์