เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - กมลา แฮร์ริส ตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลายปีคืนวานนี้ (22 ส.ค.) ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก บุคคลมีชื่อเสียงขึ้นพูดแม้แต่วงในรีพับลิกันยังแอบปลอมตัวมาสังเกตการณ์ช่วยทรัมป์ พบเปิดแผนเศรษฐกิจเท่าเทียมเพื่อโอกาส ประกาศสหรัฐฯ จะยังคงยืนอยู่ข้างอิสราเอลและปาเลสไตน์ต้องได้รับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เผยแผนเฉียบเตรียมนำอเมริกาเหนือชั้นด้านอวกาศ-เทคโนโลยี AI แซงหน้าจีน โจมตีคู่แข่ง โดนัลด์ ทรัมป์เป็นเพื่อนกับพวกผู้นำเผด็จการทั้งปูตินและคิม จองอึนได้ ระทึกโพลชี้ “ทรัมป์” นำ “กมลา” เฉียดฉิวในรัฐเทกซัสที่รู้จักในฐานะ HQ ของพรรครีพับลิกัน
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส ปฏิญาณจะนำอเมริกา “ก้าวไปข้าวหน้าในหนทางใหม่” ในคืนวันพฤหัสบดี (22) ในการตอบรับการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงผู้นำทำเนียบขาวแข่งกับอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน
หากชนะเลือกตั้งแฮร์ริสจะกลายเป็นผู้หญิงผิวสีคนแรกที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรอบกว่า 200 ปี เปิดโฉมหน้าอเมริกาสู่ศักราชใหม่
“ประเทศของเราพร้อมด้วยการเลือกตั้งครั้งนี้มาพร้อมกับโอกาสที่ล้ำค่าในการก้าวผ่านความขมขื่น การถากถางและการต่อสู้แบบแบ่งฝ่ายในอดีต เป็นโอกาสที่สร้างหนทางใหม่เพื่อไปข้างหน้า ที่ไม่ใช่ในฐานะสมาชิกพรรคใดหรือฝ่ายใดแต่ในฐานะชาวอเมริกัน” กมลากล่าวในการแถลงตอบรับเป็นตัวแทนที่ Lollapalooza ในเมืองชิคาโก อ้างอิงจากสกายนิวส์ของอังกฤษ
และกล่าวต่อพร้อมเสียงปรบมือดังลั่นจากฝูงชนว่า “ในฐานะของทุกคนที่เรื่องราวคนเหล่านั้นสามารถที่จะถูกเขียนขึ้นได้ในประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ดิฉันขอตอบรับการเสนอของคุณในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา”
โพลออกมาชี้ว่า กมลา แฮร์ริส วัย 59 ปี ผิวสี/เอเชียที่ถูกมองว่าเป็นรองคู่แข่งเช่นทรัมป์และม้าศึกที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวเมื่อเดือนที่ผ่านมา นั้นมีคะแนนสูสีทรัมป์
เดอะฮิลล์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (22) ว่า โพลของมหาวิทยาลัยฮุสตันและมหาวิทยาลับเซาเทิร์นฮุสตัน (the University of Houston and Texas Southern University) ที่เผยแพร่ผลการสำรวจในวันพฤหัสบดี (22) ว่า ทรัมป์ได้คะแนน 49.5% จากผู้มีสิทธิชาวรัฐเทสซัส ขึ้นนำไม่ถึง 5 จุดที่แฮร์ริสได้ไป 44.6% โดยเป็นที่รู้กันว่ารัฐเทกซัสนั้นเป็นเหมือนสำนักงานใหญ่ของพรรครีพับลิกันทีเดียว
ในสุนทรพจน์ตอบรับของแฮร์ริสใช้เวลาเกือบ 45 นาที โดยมีบางส่วนกล่าวยกย่องมารดาซึ่งเป็นนักวิทยาชีวการแพทย์ชาวอินเดียเข้ามาศึกษาต่อและอาศัยในสหรัฐฯ มีส่วนสำคัญในการผลักดันเธอทั้งด้านชีวิตและอาชีพทางการเมือง
ท่ามกลางบอลลูนจำนวนมากสีธงชาติสหรัฐฯ 100,000 ลูกพร้อมกับเพลงที่เร้าใจ บนเวทีมีบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองอเมริกันเป็นที่รู้จักทั้งสาธุคุณผิวสี อัล ชาร์ปตัน (Rev. Al Sharpton) ตะโกนกลางที่ประชุมว่า “พวกเราจะไม่ยอมกลับไป (สู่อดีต)” ส.ว.สายก้าวหน้า เอลิซาเบธ วอร์เรน ผู้ว่าการรัฐ เกรธเชน วิตเมอร์ (Gretchen Whitmer) ที่เคยเกือบถูกลักพาตัวเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 โดยกลุ่มชาตินิยมผิวขาวอเมริกันได้กล่าวบนเวทีว่า ทรัมป์เคยเรียกว่า “ผู้หญิงคนนั้นจากรัฐมิชิแกน” และรวมไปถึงเหยื่อกราดยิงเกือบพิการที่กลายเป็นคนรณรงค์ต่อต้านอาวุธปืนในสหรัฐฯ อดีต ส.ส.รัฐแอริโซนา แก็บบี กิฟฟอร์ดส์ (Gabby Giffords) และสามี ส.ว.รัฐแอริซาอดีตนักบินอวกาศสหรัฐฯ มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) ที่ติดโผรายชื่อว่าที่ผู้สมัครลงชิงคู่แฮร์ริส
และในงานพบว่ามีผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้หญิงได้แต่งชุดขาวหรือชมพูเพื่อแสดงการสนับสนุนกมลา แฮร์ริส อย่างเต็มที่ โดยในงานเป็นที่ฮือฮาพบว่าอดีตผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันรอบไพรมารี Vivek Ramaswamy และไมค์ ลินเดล (Mike Lindell) ซีอีโอเจ้าของธุรกิจจำหน่ายหมอน MyPillow ชื่อดังผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันที่ยอมลงทุนปลอมตัวเปลี่ยนลุคทั้งย้อมผมให้บลอนด์และโกนหนวดเครื่องหมายการค้าแฝงตัวเข้าจับตาดูสถานการณ์งานประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่เมืองชิคาโก
บีบีซีรายงานว่า บนเวทีแฮร์ริสกล่าวว่า เธอจะสร้าง “เศรษฐกิจโอกาส” (opportunity economy) ที่ทุกคนสามารถแข่งขันและโอกาสเพื่อแข่งขันและโอกาสที่จะประสบสำเร็จ”
พร้อมกันนี้ ยังชี้ว่าจะยุติวิกฤตขาดแคลนที่อยู่อาศัยและเธอจะช่วยเหลือบริษัทผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า แฮร์ริสไม่ได้ชี้ลงไปว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายจากรัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดี โจ ไบเดน หรือไม่
ด้านคู่แข่ง อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาตอบโต้ “กมลา” ทันทีผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social และสื่อฟ็อกซ์นิวส์หลังงานประชุม DNC สิ้นสุดโดยโจมตีว่า กมลา แฮร์ริส ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ระหว่างกำลังทำหน้าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ด้านหนังสือพิมพ์ไทม์ของอังกฤษรายงานว่า สำหรับนโยบายต่างประเทศ แฮร์ริสที่โดนทรัมป์ล้อเธอว่า เป็น “Comrade Kamala” หรือ "สหายกมลา" ที่สะท้อนถึงแนวการเมืองปีกซ้ายก้าวหน้าของเธอ ในคืนวันพฤหัสบดี (22) เธอโจมตีทรัมป์กลับไปว่า เขาสนิทสนมพวกผู้นำเผด็จการที่เป็นฝ่ายตรงข้ามสหรัฐฯ และข่มขู่จะทิ้งนาโตที่ถือเป็นเพื่อนของอเมริกา
นอกจากนี้ เธอยังย้ำถึงจุดยืนตัวเองว่า อเมริกายืนหยัดต่อการรุกรานของยูเครน พร้อมยังยืนยันจะยืนเคียงข้างยูเครน สร้างความแข็งแกร่งให้นาโต ทำให้แกร่งขึ้นโดยที่ไม่สละความเป็นผู้นำโลกของอเมริกา
ซึ่งเธอได้กล่าวถึงอิสราเอลที่อเมริกามีผลประโยชน์และเป็นพันธมิตรสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางโดยย้ำว่า เธอจะยังเคียงข้างอิสราเอลไม่เปลี่ยน และเทลอาวีฟมีสิทธิในการปกป้องตนเองเหมือนเช่นที่ไบเดนเคยกล่าว
นอกจากนี้ แฮร์ริสได้พูดไปถึงปาเลสไตน์ว่า ต้องได้รับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอย่างมีศักดิ์ศรีและมีเสรีภาพ บีบีซีรายงาน
ไทม์ของอังกฤษชี้ต่อว่า กมลา แฮร์ริส ยังคงกล่าวประโยคเดียวกันกับสายเหยี่ยวโดยได้ประกาศจะยังคงทำให้กองทัพสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมากที่สุด เป็นกองกำลังที่ร้ายกาจในการต่อสู้มากที่สุดในโลก
และเมื่อกล่าวไปถึงจีน เธอประกาศว่าอเมริกาต้องลงทุนในเทคโนโลยีอวกาศและ AI เพื่อทำให้อเมริกาชนะในการแข่งขันในโลกศตวรรษที่ 21