ทิม วอลซ์ รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ โดยประกาศว่า ตนและกมลา แฮร์ริส จะเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน พร้อมเตือนภัยที่ทรัมป์มุ่งรับใช้แต่คนรวยและพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีสมัยสอง
วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตาที่เมื่อ 15 วันก่อนยังแทบไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนส่วนใหญ่ในอเมริกา ยอมรับว่า ไม่เคยกล่าวปราศรัยในสถานที่ขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน แต่สำทับว่า ในฐานะอดีตโค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลระดับไฮสกูล เขาเคยพูดปลุกขวัญสร้างกำลังใจมาบ่อยครั้ง ขณะที่ผู้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศพรรคเดโมแครตในวันที่ 3 เมื่อวันพุธ (21 ส.ค.) พร้อมใจตะโกนเรียก “โค้ช” เสียงดังสนั่น
วอลซ์ วัย 60 ปี ซึ่งรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งคู่กับแฮร์ริสอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ เสริมว่า อเมริกาควรเป็นประเทศที่เด็กไม่อดอยากหิวโหย มีระบบดูแลสุขภาพ ที่พักอาศัย และสิทธิมนุษยชน และรัฐบาลต้องไม่แทรกแซงชีวิตประชาชนเข้าไปจนถึงห้องนอน อันเป็นการโจมตีโดยตรงต่อนโยบายต่อต้านการทำแท้งและการแต่งงานของคนเพศเดียวกันของพรรครีพับลิกัน
วอลซ์สำทับว่า หากทรัมป์ได้กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สอง บุคคลที่เอาแต่ดูหมิ่นและโทษคนอื่นทั้งวันผู้นี้ จะรับใช้เฉพาะคนรวยและพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง
ในทางกลับกัน วอลซ์ยกย่องว่า แฮร์ริสสู้เพื่อคนอเมริกันตั้งแต่ครั้งดำรงตำแหน่งอัยการ วุฒิสมาชิก จนมาถึงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในปัจจุบัน
นอกจากการปราศรัยของวอลซ์แล้ว ในงานประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตคืนที่ 3 โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดัง อดีตประธานาธิบดีบิลล์ คลินตัน และอีกหลายคน ซึ่งรวมถึงอดีตผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ยังได้ทยอยปรากฏตัวเพื่อร่วมกันตีแผ่ทรัมป์ว่า เป็นคนเห็นแก่ตัวเองเท่านั้น ขณะที่แฮร์ริสทำเพื่อประเทศชาติ
คลินตัน วัย 78 ปี ที่ขึ้นเวทีประชุมใหญ่เดโมแครตเป็นครั้งที่ 12 เชิญชวนฝูงชนว่า ครั้งต่อไปถ้าบังเอิญได้ฟังทรัมป์ปราศรัย ไม่ต้องเสียเวลานับคำโกหก แต่ให้นับว่า อดีตประธานาธิบดีจากรีพับลิกันพูดถึงตัวเองกี่ครั้ง
ด้านวินฟรีย์ที่บอกว่า ตัวเองเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอิสระ เรียกร้องให้คนที่ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด รวมถึงคนที่ยังไม่ตัดสินใจทั้งหมดพิจารณาถึงคุณสมบัติในด้านความสุภาพอ่อนน้อมและความเคารพผู้อื่นระหว่างกาบัตรเลือกตั้ง
ในงานประชุมเมื่อคืนวันพุธ ยังมีการเปิดวิดีโอเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 ที่ทรัมป์ปลุกใจกลุ่มผู้สนับสนุนให้เข้มแข็งและต่อสู้ ก่อนที่คนเหล่านั้นจะบุกเข้าสู่อาคารรัฐสภาเพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2020 ของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต
โอลิเวีย ทรอย ที่ลาออกจากทีมความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวในคณะบริหารทรัมป์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว บอกว่า ทรัมป์วางแผนบ่อนทำลายการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เจฟฟ์ ดันแคน อดีตรองผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย พูดผ่านกล้องไปถึงผู้สนับสนุนรีพับลิกันเช่นเดียวกับตนที่ดูอยู่ที่บ้านให้ “เททรัมป์” และสำทับว่า การโหวตให้แฮร์ริสไม่ได้หมายความว่า เป็นผู้สนับสนุนเดโมแครต แต่เป็นการแสดงความรักชาติ
แนนซี เพโลซี ที่รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตในขณะเกิดเหตุม็อบบุกสภา เรียกร้องประชาชนไม่ให้ลืมว่า ใครเป็นคนโจมตีประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 6 ม.ค. และเดโมแครตเป็นผู้ที่ปกป้องประชาธิปไตย
การประชุมใหญ่ระดับชาติของเดโมแครตยังมีอีก 1 วัน คือในวันพฤหัสฯ (23) ซึ่งไฮไลต์สำคัญที่สุด ได้แก่ การกล่าวปราศรัยของ แฮร์ริสเพื่อรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
อนึ่ง ผลสำรวจของสำนักโพลต่างๆ ซึ่งกระทำก่อนหน้านี้ในช่วงก่อนไบเดนจะตัดสินใจถอนตัว แล้วต่างพบว่า ทรัมป์มีคะแนนนำนั้น เวลานี้ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นแฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ในหลายรัฐสำคัญ ที่อาจเป็นสมรภูมิตัดสินการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.นี้
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)