xs
xsm
sm
md
lg

พวกผู้รู้ชาวจีนมองแง่ดี-แต่พรรครีพับลิกันเร่งกระพือความสงสัย เรื่อง‘ทิม วอลซ์’ผู้สมัครชิงรองปธน.ของเดโมแครตมีสัมพันธ์กับแดนมังกรมาหลายสิบปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เจฟฟ์ เปา


ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ที่เป็นตัวแทนชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครต ขณะไปกล่าวปราศรัยหาเสียงที่มหาวิทยาลัยเนวาดา เมืองลาสเวกัส เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Chinese pundits like Walz pragmatism in US trade war
by Jeff Pao
20/08/2024

ทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ที่เป็นผู้สมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในทีมของ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งช่วงชิงทำเนียบขาวเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นสายเหยี่ยวแข็งกร้าวในประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของจีน แต่เมื่อเป็นเรื่องการค้า เขาก็อยู่เคียงขานพวกเกษตรกรอเมริกันที่หวาดกลัวผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน

ประสบการณ์เกี่ยวกับจีนที่มีมายาวนานของ ทิโมธี วอลซ์ คู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในทีมของ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงแข่งขันชิงทำเนียบขาวในการเลือกตั้งต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ อาจช่วยปรับปรุงยกระดับการสนทนาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และนำเอามุมมองแบบมุ่งผลทางปฏิบัติ เข้ามาสู่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง ทั้งนี้ตามความเห็นของพวกนักวิจารณ์ทางสื่อมวลชน (คอมเมนเตเตอร์) ชาวจีนบางราย

ในอีกด้านหนึ่ง ตั้งแต่ที่ วอลซ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นคู่หูร่วมทีมของ แฮร์ริส เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาวัย 60 ปีผู้นี้ก็ถูกกระหน่ำโจมตีจากพรรครีพับลิกันในเรื่องที่เขามีการติดต่อสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับประเทศจีนมาหลายสิบปี รวมทั้งการที่เมื่อปี 2019 เขาออกมาคัดค้านสงครามการค้ากับแดนมังกรของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอยู่ในเวลานั้น

ทั้งนี้ วอลซ์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการของรัฐที่ทำการเกษตรหนาแน่นอย่างมินนิโซตามาตั้งแต่ปี 2018 ออกมากล่าวในปี 2019 ว่า ทรัมป์ต้อง “เริ่มต้นทำงานนี้ และยุติสงครามการค้ากับจีน” ในเมื่อการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรเล่นงานจีนของเขา กำลังกลับสร้างอันตรายให้แก่เหล่าเกษตรกรสหรัฐฯเอง

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคอลัมนิสต์ชาวตะวันตกบางรายให้ความเห็นว่า การที่ วอลซ์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับจีนมาหลายสิบปี ควรถือเป็นสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ไม่ใช่หนี้สินแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นมีข้อเขียนในสื่อบลูมเบิร์กชิ้นหนึ่ง [1] ที่แจกแจงว่า วอลซ์เป็นแชมเปี้ยนที่ต่อสู้เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างมั่นคงเรื่อยมา โดยวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการของปักกิ่งทั้งในเรื่องทิเบตและเรื่องฮ่องกง ตลอดจนเป็นผู้ร่วมสปอนเซอร์พวกญัตติประณามการล่วงละเมิดเหล่านี้บางอย่างบางประการอีกด้วย

มีบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งของสื่อบีบีซี [2] กล่าวด้วยซ้ำว่า วอลซ์ มีมุมมองต่อจีนแบบสายเหยี่ยวแข็งกร้าวยิ่งกว่าที่พวกที่วิพากษ์วิจารณ์เขากล่าวอ้างกัน โดยชี้ว่าเขาเป็นผู้ร่วมสปอนเซอร์รายหนึ่งของญัตติที่เสนอในรัฐสภาสหรัฐฯ เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีของเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 1989 รวมทั้งให้การสนับสนุนรัฐบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) ตลอดจนยังได้พบปะกับ ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตใจและประธานของศาสนาพุทธนิกายทิเบตในปัจจุบัน

ภาพจากบัญชีแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของ ทิม วอลซ์ ซึ่งถ่ายขณะเขาพบปะกับ ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตใจและประธานของพุทธศาสนานิกายทิเบต เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2018  ทั้งนี้หลายฝ่ายใช้ข้อมูลนี้มาโต้แย้งว่า วอลซ์ เป็นพวกสายเหยี่ยวที่วิพากษ์วิจารณ์สภาพสิทธิมนุษยชนในจีน
ทางด้าน เหมา หนิง (Mao Ning) โฆษกผู้หนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อถูกนักหนังสือพิมพ์ต่างชาติสอบถามในวันที่ 7 สิงหาคม ถึงทัศนะของปักกิ่งที่มีต่อวอลซ์ เธอก็ปฏิเสธไม่ขอให้ความเห็น [3] เกี่ยวกับวอลซ์ โดยกล่าวว่า “การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นกิจการภายในประเทศของสหรัฐฯ”

“เราหวังว่าสหรัฐฯจะทำงานกับจีนในทิศทางเดียวกันนี้ ภายใต้หลักการของการเคารพซึ่งกันและกัน, การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ, และการร่วมมือกันเพื่อให้เป็นผู้ชนะกันทั้งสองฝ่าย รวมทั้งทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ, มั่นคง, และยั่งยืน ในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและของโลกในวงกว้าง” เธอกล่าว

“มีเหตุมีผลและมุ่งผลทางปฏิบัติ”

ขณะที่ปักกิ่งหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่พวกคอมเมนเตเตอร์ชาวจีนบางคนได้กล่าวแสดงความนับถือยกย่อง วอลซ์ เอาไว้ในข้อเขียนของพวกเขา ซึ่งถูกนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวางบนอินเตอร์เน็ตในประเทศจีนที่มีการเซนเซอร์อย่างเข้มงวด

“วอลซ์ มีจุดยืนที่เข้มแข็งในประเด็นทางด้านความมั่นคงแห่งชาติ, การปกป้องสิ่งแวดล้อม, และสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกันก็มองหาทางธำรงรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนแบบมุ่งหวังผลในทางปฏิบัติ” คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลซานซีผู้หนึ่งเขียน [4] เอาไว้ในบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่ง “มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะประทับตราใส่ วอลซ์ อย่างลวกๆ เพียงแค่ว่าเขาเป็นสายพิราบหรือสายเหยี่ยว ดูเหมือนว่าเขามีเจตนารมณ์ที่จะหาจุดสมดุลระหว่างการมุ่งผลในทางปฏิบัติกับการยึดมั่นในหลักการ”

คอมเมนเตเตอร์อีกรายหนึ่งที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลเจียงซี กล่าว [5] ว่าทั้งคณะบริหารทรัมป์ และคณะบริหารไบเดน ต่างแสดงความเย่อหยิ่งยโสและการมีอคติคัดค้านจีนในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา เขาบอกว่าคณะบริหารแฮร์ริส-วอลซ์ อาจจะหันมาใช้วิธีการที่มีเหตุมีผลและมุ่งผลในทางปฏบัติมากขึ้นในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับจีน

ยังมีคอมเมนเตเตอร์อีกรายหนึ่งที่ใช้นามปากกาว่า Taola ให้ความเห็น [6] ว่าชาวเน็ตจีนราว 99% ทีเดียวมีความรู้สึกที่ดีต่อ วอลซ์ พร้อมกันนั้นพวกเขาบางคนกระทั่งปรารถนาให้ วอลซ์ เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเสียเองทีเดียว ไม่ใช่แค่รองประธานาธิบดี

มีผู้รู้ชาวจีนคนอื่นๆ บางคน กล่าววิพากษ์วิจารณ์ [7] เรื่องที่พวกรีพับลิกันเที่ยวโจมตีวอลซ์ กระนั้นพวกเขาบอกว่าไม่แน่ใจหรอกว่า วอลซ์ จะมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐฯได้หรือไม่

“เมื่อ วอลซ์ ขอให้ ทรัมป์ ยุติสงครามการค้าที่ทำกับจีน เขาเพียงแค่กำลังพูดเพื่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯเท่านั้น” หลิว หย่ง (Liu Yong) นักเขียนเรื่องราวทางการทหารซึ่งตั้งฐานอยู่ที่มณฑลหูเป่ย บอกอย่างนี้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่ง “วอลซ์แสดงความคิดเห็นของเขาอย่างมีเหตุมีผลและปราศจากอคติเท่านั้นเอง”

“มันเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะนะ ที่นักการเมืองสหรัฐฯผู้หนึ่งซึ่งสนอกสนใจอย่างแท้จริงกับเรื่องผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ เวลานี้กลับถูกประทับตราว่าเป็น ‘พวกโปรจีน’” หลิวบอก “ในสหรัฐฯ มีปรากฏการณ์ที่ชวนให้รู้สึกเดือดดาลอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือใครก็ตามที่ ‘ยังไม่ได้กำลังต่อต้านจีนอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ’ เวลานี้กำลังถูกหมายหัวเรียกว่า ‘ผู้ที่ไม่ได้กำลังต่อต้านจีนเอาเลย’

เขาเน้นว่า วอลซ์ ไม่ได้เป็นพวกโปรจีน พร้อมกับชี้ถึงข้อเท็จจริงที่ว่าผู้สมัครรายนี้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์จีนอยู่เป็นระยะๆ เรื่อยมา

สิ่งที่ หลิว พูดก็คือการใช้จุดยืนตามแนวทางที่เป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศจีนนั่นเอง หลิวบอกว่าทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตล้วนแต่สมควรแก้ไขความคิดจิตใจแบบต่อต้านจีนของพวกเขา เขาบอกว่าพวกรีพับลิกันคือพวกวายร้ายอย่างแท้จริง ขณะที่พวกเดโมแครตก็เป็นพวกมือถือสากปากถือศีล
(ในสำนวนภาษาจีน พวกที่จัดว่าเป็นปรปักษ์นั้นสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ พวกสุภาพบุรุษ, พวกมือถือสากปากถือศีล, และพวกวายร้าย โดยที่ 2 ประเภทหลังถือว่าเป็นอันตรายอย่างน่ารังเกียจพอๆ กัน)

รายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของสหรัฐฯ สมัยที่ ทิม วอลซ์ ไปสอนหนังสือที่ประเทศจีน เวลานี้ถูกพวกพรรครีพับลิกันและฝ่ายขวาขุดคุ้ยออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียอย่างแพลตฟอร์มเอ็กซ์ อย่างสนุกสนาน ในความพยายามที่จะประทับตราว่าเขาเป็นพวกโปรจีน และกระทั่งลิ่วล้อของจีน
ทางด้านคอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลเหอหนานซึ่งเรียกขานกันว่า เจ๋อเหวิน (Zewen) พูด [8] ไว้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่งว่า “ประสบการณ์เกี่ยวกับจีนของ วอลซ์ สามารถช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯเข้าอกเข้าใจพวกอุดมการณ์, พฤติกรรม, และเจตนารมณ์ของประชาชนชาวจีนได้” พร้อมกับย้ำว่า “นี่อาจจะเป็นผลกระทบในทางบวกต่อการติดต่อสื่อสารกันระหว่างพวกผู้นำระดับสูงสุดของสหรัฐฯและจีนก็ได้”

“ถึงแม้จุดยืนเกี่ยวกับจีนของเขาไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงเหมือนกับของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ วอลซ์ ก็ยังควรถือว่ามีจุดยืนแบบเหยี่ยวต่อต้านจีนอย่างแข็งกร้าวอยู่นั่นเอง” เจ๋อเหวิน กล่าวต่อ “ถ้าหากทีมแฮร์ริส-วอลซ์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่วอชิงตันจะยังคงใช้นโยบายของคณะบริหารไบเดนที่มุ่งกำราบกีดกันจีนในเรื่องเศรษฐกิจทั้งหลายต่อไปอีก”

เขาแสดงความคิดเห็นว่า จริงๆ แล้วปักกิ่งไม่ได้ใส่ใจอะไรหรอกว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป เขาบอกว่าปักกิ่งใส่ใจเพียงแค่เรื่องแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นมาจริงๆ ของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯมากกว่า และคาดหวังว่าสหรัฐฯจะแก้ไขคลี่คลายความขัดแย้งต่างๆ ที่มีอยู่กับจีนโดยผ่านการสนทนากัน

กระนั้น ยังมีคอมเมนเตเตอร์อื่นๆ บางคนมองว่า ปักกิ่งอาจจะชื่นชอมทีมแฮร์ริส-วอลซ์ มากกว่าทีมทรัมป์ เนื่องจากทรัมป์ได้ประกาศลั่นเอาไว้แล้วว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนทั้งหมดอีก 60% รวด ถ้าเขาเป็นผู้ชนะ

รีพับลิกันเร่งขุดคุ้ยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง วอลซ์ กับจีน

ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกรีพับลิกันได้แสดงความสนใจในเรื่องที่ วอลซ์ เคยเดินทางเยือนจีนรวมแล้วมากกว่า 30 เที่ยว พวกเขาเรียกร้องต้องการได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบทบาทของ วอลซ์ ในตอนที่เขามาเป็นอาจารย์สอนหนังสือในประเทศจีนเมื่อช่วงทศวรรษ 1990 รวมทั้งเรื่องที่บริษัทของเขาได้จัดรายการนำนักศึกษาสหรัฐฯเดินทางเยือนจีนอยู่หลายปีในช่วงราวๆ ต้นทศวรรษ 2000

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม คณะกรรมาธิการกำกับตรวจสอบและไล่เรียงหาผู้รับผิดชอบ (Committee on Oversight and Accountability ) ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่ปัจจุบันอยู่ในความควบคุมของพรรครีพับลิกัน ได้เปิดการสอบสวน [9] ความเกี่ยวข้องพัวพันที่ดำเนินมายาวนานระหว่าง วอลซ์ กับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“วอลซ์ เดินทางไปเยือนจีนมาแล้วหลายสิบเที่ยว รวมทั้งเคยทำหน้าที่เป็นนักวิจัยอยู่ในสถาบันของจีนซึ่งอุทิศตนให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และเคยขึ้นพูดเคียงข้างประธานขององค์การแห่งหนึ่งของจีน ซึ่งถูกทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเปิดโปงว่าเป็นความพยายามประการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จะส่งอิทธิพลและหาความร่วมมือจากพวกผู้นำระดับท้องถิ่นในสหรัฐฯ” เจมส์ โคเมอร์ (James Comer) ส.ส.รีพับลิกันที่เป็นประธานของคณะกรรมาธิการชุดนี้ กล่าวในเอกสารแถลงข่าว “ประชาชนชาวอเมริกันสมควรที่จะต้องได้รับรู้และเข้าใจอย่างเต็มที่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง วอลซ์ กับจีนหยั่งรากลงลึกขนาดไหน”

โคเมอร์ บอกว่าคณะกรรมาธิการของเขาได้ส่งหนังสือฉบับหนึ่งไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) เพื่อขอข้อมูลข่าวสาร, เอกสาร, และการติดต่อสื่อสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประดาหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ซึ่งโยงใยกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ วอลซ์ ได้เคยมีปฏิสัมพันธ์และเคยเข้าร่วม

เขากล่าวอ้างอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้มีพวกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอมาบรรยายสรุปให้คณะกรรมาธิการฟังว่า ทางทีมงานเฉพาะสืบสวนสอบสวนเรื่องอิทธิพลต่างชาติ ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ กำลังสอบสวนกิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งอยู่ในลักษณะเดียวกับเรื่องที่จีนมีปฏิสัมพันธ์กับวอลซ์

เชิงอรรถ
[1] https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2024-08-11/tim-walz-knows-china-that-s-good-for-the-us?srnd=homepage-asia&sref=oTGRLJoa
[2]https://www.washingtonpost.com/opinions/2024/08/08/walz-harris-campaign-china-experience/
[3]https://www.fmprc.gov.cn/eng/xw/fyrbt/fyrbt/202408/t20240807_11467617.html
[4] https://www.sohu.com/a/800391760_121124569
[5]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1806782643408405618&wfr=spider&for=pc
[6]https://mp.weixin.qq.com/s?__biz=MzIyMjA5NjE0NA==&mid=2651528861&idx=1&sn=ea34872b4a9010b7ff193dc18b0d56e1&chksm=f27d738caf39550f0adcdd266328a8396977a8513d2a696daa3f69a3a34450f626e07497ca70&scene=27
[7]https://baijiahao.baidu.com/s?id=1806807206844170020&wfr=spider&for=pc
[8]https://www.163.com/dy/article/J9N4IICL0535I9EB.html?f=post1603_tab_news
[9] https://oversight.house.gov/release/comer-launches-probe-into-governor-walzs-extensive-engagement-with-china-and-ccp-entities/
กำลังโหลดความคิดเห็น