เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น พร้อมด้วยกองเรือพิฆาต เดินทางถึงตะวันออกกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของกองทัพสหรัฐฯ ในวันพุธ (21 ส.ค.) หลังรัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกาออกคำสั่งให้กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีดังกล่าวเร่งเข้าประจำการในภูมิภาค ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
การเดินทางมาถึงของเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอ อับราฮัม ลินคอล์น ส่งผลให้สหรัฐฯ มีเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำในภูมิภาคคตะวันออกกลาง อย่างน้อยๆ ก็เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก ลินคอล์น จะเข้ามาแทนที่เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลล์ ในช่วงเวลาที่มีความกังวลอย่างสูงเกี่ยวกับความขัดแย้งในภูมิภาค ตามหลังเหตุลอบสังหารอันโด่งดัง ที่กล่าวอ้างและกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
"ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ซึ่งมีฝูงบินรบ F-35C และ F/A-18 Block III เข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (USCENTCOM)" กองบัญชาการทหารที่รับผิดชอบด้านตะวันออกกลางเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์
ถ้อยแถลงระบุต่อว่า "เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เรือธงของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 3 เดินทางมาพร้อมกับกองเรือพิฆาตที่ 21 และกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่ 9"
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้กองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เร่งล่องเข้าสู่ตะวันออกกลาง หลังจากบัญชาให้เข้าประจำการในภูมิภาคแห่งนี้ในช่วงต้นเดือน
มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ลุกลามบานปลาย นับตั้งแต่ฮิซบอลเลาะห์และอิหร่าน ประกาศแก้แค้นเหตุลอบสังหารบุคคลสำคัญ 2 ราย ที่พวกเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้ว
เหตุการณ์ลอบสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 31 ก.ค. อย่างอุกอาจในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน และการสังหารฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการคนสำคัญกองกำลังอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในกรุงเบรุตของเลบานอนในวันเดียวกัน ทำให้อิหร่านและเหล่าพันธมิตรออกมาประกาศล้างแค้นอิสราเอลรวมถึงสหรัฐฯ และตอกย้ำความกังวลว่า สงครามในกาซาจะแผ่ขยายไปทั่วตะวันออกกลาง
เพนตากอนเปิดเผยว่ากองกำลังป้องกันขีปนาวุธอยู่ในสถานะยกระดับการเตรียมพร้อมสำหรับเข้าประจำการ พร้อมระบุคำมั่นสัญญาของพวกเขาที่มีต่อการปกป้องอิสราเอลนั้น "แข็งแกร่งดั่งหินผา"
(ที่มา : เอเอฟพี)