อิหร่านอาจพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และประกาศตนในฐานะรัฐนิวเคลียร์ในช่วงปลายปี จากคำเตือนของไมค์ เทอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากรัฐโอไฮโอ สังกัดพรรครีพับลิกัน อ้างว่านโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรัฐบาลของเขาที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านนั้น ล้วนแต่ประสบความล้มเหลว และชี้ว่าภายใต้อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ สิ่งต่างๆ นั้นจะแตกต่างออกไป
"เตหะรานอาจประกาศตนเองในฐานะรัฐนิวเคลียร์ในช่วงปลายปี สืบเนื่องจากนโยบายต่างๆ ที่ล้มเหลวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ" เทอร์เนอร์กล่าาว พร้อมบอกว่ามีหลายรายงานที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ และบอกว่าพัฒนาการดังกล่าวจะเป็นสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายครั้งใหญ่ แม้สหรัฐฯ พยายามหาทางหลีกเลี่ยงมานานหลายปี
เมื่อเดือนที่แล้ว แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกถ้อยแถลงเตือนคล้ายกัน บ่งชี้ว่า เตหะรานจะใช้เวลาแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการได้มาซึ่งวัตถุที่จำเป็นสำหรับสร้างอาวุธนิวเคลียร์ โดยเน้นว่าประเทศแห่งนี้สะสมยูเรเนียมในเกรดที่ใกล้เคียงสำหรับใช้ผลิตอาวุธ นับตั้งแต่สหรัฐฯ ถอนตัวฝ่ายเดียวอกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Joint Comprehensive Plan of Action หรือ JCPOA (ข้อตกลงร่วมว่าด้วยแผนปฏิบัติการครอบคลุม) ในปี 2018
บลิงเคน กล่าวในที่ประชุมด้านความมั่นคงหนึ่งในโคโลราโด ว่า "หลังจากข้อตกลงนิวเคลียร์ถูกโยนทิ้ง แทนที่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี จากการมีศักยภาพผ่าทางตันในการผลิตวัสดุฟิสไซล์ สำหรับอาวุธนิวเคลียร์ เวลานี้บางทีอิหร่านอยู่ห่างจากการทำเช่นนั้นได้เพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์"
ข้อตกลง JCPOA ซึ่งลงนามในปี 2015 โดย อิหร่าน จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย สหราชอาณจักร และสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำหนดให้อิหร่านลดระดับโครงการนิวเคลียร์ของตนเอง แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลง พร้อมให้คำจำกัดความว่ามันเป็นข้อตกลงเลวร้ายที่สุดตลอดกาล โดยชี้ว่ามันล้มเหลวในการขัดขวางอิหร่านจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง คำกล่าวหาดังกล่าวมีขึ้นแม้ว่า อิหร่านเน้นย้ำซ้ำๆ ว่าพวกเขาไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น และโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติแต่เพียงอย่างเดียว
เมื่อเร็วๆ นี้ อิหร่านเน้นย้ำเจตนารมณ์ของพวกเขาต่อการยึดมั่นในยุทธศาสตร์ทางนิวเคลียร์ แต่เตือนว่าพวกเขาอาจจำเป็นต้องพิจารณาทบทวนจุดยืนดังกล่าว หากความอยู่รอดของประเทศถูกคุกคาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับอิสราเอล
ที่ปรึกษารายหนึ่งของอยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เคยกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม ครั้งที่ อิสราเอล ขู่โจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่า "เรายังไม่ตัดสินใจสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แต่หากความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคาม เราก็จะไม่มีทางเลือก ยกเว้นแต่เปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ทางทหารของเรา"
(ที่มา : ซีบีเอส/อาร์ทีนิวส์)