ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในวันเสาร์ (18 ส.ค.) เปิดเผยว่ากองกำลังของเขาได้เสริมความเข้มแข็งแก่ฐานที่มั่นต่างๆ ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากรุกราน และเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรของเคียฟตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ด้วยการอนุญาตให้ใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีใส่ดินแดนรัสเซีย
ยูเครนอ้างว่าพวกเขายึดถิ่นฐานต่างๆ มากกว่า 80 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,150 ตารางกิโลเมตรในแคว้นคูร์สก์ นับตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม ถือเป็นการรุกรานรัสเซีย โดยชาติหนึ่งครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
เซเลนสกี เปิดเผยว่า นายพลโอเลกซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครน รายงานว่าทหารเคียฟยังคงเดินหน้าการรุกคืบและสามารถจับตัวกองกำลังรัสเซียในฐานะเชลยศึกได้เพิ่มเติม
เขากล่าวว่าปฏิบัติการในแคว้นคูร์กส์กำลังเป็นไปตามแผน และยูเครนยังคงเดินหน้ารุกคืบและเสริมความเข้มแข็งแก่ฐานที่มั่นต่างๆ
นอกจากนี้ เซเลนสกียังส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้ง ขอให้บรรดาพันธมิตรตะวันตกของยูเครนอนุญาตให้ใช้อาวุธพิสัยไกลโจมตีใส่รัสเซีย
"ศักยภาพพิสัยไกลของกองกำลังของเรา คือคำตอบที่สำคัญที่สุด เป็นคำตอบของคำถามที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุดของสงครามนี้" เซเลนสกี กล่าวในวิดีโอที่ปราศรัยกับประชาชนทั่วประเทศในทุกวัน "เราจะเสริมความเข้มแข็งแก่งานด้านการทูตของเรา เราจะเดินหน้าก้าวย่างที่กล้าหาญดังกล่าว และการตัดสินใจที่กล้าหาญมีความจำเป็น"
บรรดารัฐบาลตะวันตกมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน หลังจากถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้พวกเขายังคงปฏิเสธอนุญาตให้รัสเซียใช้อาวุธพิสัยไกล เพราะว่าแนวโน้มความเสี่ยงของสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย
กองทัพยูเครนระบุในรายงานประจำวัน ว่ากำลังพลของพวกเขาประสบความสำเร็จในการรุกคืบเพิ่มเติมในแคว้นคูร์สก์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้เคยรายงานว่าสามารถบุกทะลวงลึกเข้าไปในรัสเซีย เป็นระยะทาง 35 กิโลเมตร
รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบอย่างเป็นอิสระใดๆ ต่อคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับพัฒนาการในสนามรบ
รัสเซียเรียกการรุกรานว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ และประกาศแก้แค้นด้วยการตอบโต้อย่างสาสม กว่า 2 ปีครึ่ง หลังจากพวกเขาเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ
มอสโกบอกว่ายูเครนใช้อาวุธของตะวันตก ในนั้นรวมถึงอาจเป็นจรวด HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ทำลายสะพานแห่งหนึ่งและสังหารเหล่าอาสาสมัครที่กำลังพยายามอพยพพลเรือน
เซเลนสกี ยังอวดอ้างอีกว่า ทหารยูเครนได้สกัดการโจมตีหลายสิบรอบของรัสเซีย ใกล้เมืองโพครอฟส์กและโทเรตสก์ ในแคว้นโดเนตสก์ ขณะที่กองทัพยูเครนบอกว่าการโจมตีของรัสเซีย 51 รอบ ถูกหยุดเอาไว้ได้ใกล้เมืองโพครอฟส์ก ศูนย์กลางโลจิสติกส์สำคัญ ในแคว้นทางตะวันออก เช่นเดียวกับอีก 13 รอบ ใกล้เมืองโทเรตสก์ ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังสุด
(ที่มา : รอยเตอร์)