นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์และเอสโตเนีย ส่งเสียงสนับสนุนยูเครนต่อปฏิบัติการโจมตีแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย หลังจากหัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียูและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ออกมาเคลื่อนไหวแบบเดียวกัน
เคียฟส่งทหารหลายพันนายข้ามชายแดนเข้าไปยังรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อ้าวอิงข้อมูลของมอสโก ระบุว่าพวกเขาเข้ายึดหมู่บ้านและถิ่นฐานต่างๆ หลายสิบแห่ง และโจมตีเป้าหมายพลเมืองโดยไม่เลือกหน้า
"ยูเครนมีสิทธิป้องกันตนเองและมันชัดเจนว่า พวกเขาสามารถดำเนินปฏิบัติการต่างๆ ของพวกเขาในแคว้นคูร์สก์" เพตเตรี ออร์โป นายกรัฐมนตีฟินแลนด์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงเฮลซิงกิเมื่อวันพุธ (14 ส.ค.) ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ คริสเทน มิชาล นายกรัฐมนตรีลิทัวเนีย "เราสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ ในปฏิบัติการต่างๆ ของพวกเขา และโดยส่วนตัวแล้ว ผมภาวนาให้พวกเขาโชคดี"
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ บอกว่า "เคียฟมีทุกความชอบธรรมที่จะทำสงครามในแนวทางดังกล่าว ในเจตนาเพื่อทำให้การรุกรานของรัสเซียเป็นง่อยเปลี้ย และมันแนวทางที่มีประสิทธิผลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เขากล่าว พร้อมอ้างว่าปฏิบัติการของรัสเซียมีลักษณะอย่างชัดเจนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
บรรดาชาติตะวันตกส่วนใหญ่ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อปฏิบัติการจู่โจมของยูเครนที่เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว โดยเลือกเผยแแพร่ถ้อยแถลงทั่วๆ ไปแทน พร้อมกับรับรอง "สิทธิการป้องกันตนเอง" ในส่วนของเคียฟ นอกจากนี้ พวกเขายังอ้างด้วยว่าไม่เคยรับรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับปฏิบัติการจู่โจมของยูเครน
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (13 ส.ค.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าวอชิงตันติดต่อประสานงานกับเคียฟอยู่ตลอด "ผมพูดคุยกับคณะทำงานของผมเป็นประจำ บางทีทุก 4 หรือ 5 ชั่วโมง ในช่วง 6 ถึง 8 วันหลังสุด" เขาบอกกับผู้สื่อข่าวในนิวออร์ลีนส์ "เรามีการติดต่อกันโดยตรง ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องกับพวกยูเครน"
ขณะเดียวกัน โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู บอกว่า เคียฟ ได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกลุ่มสำหรับปฏิบัติการรุกรานแคว้นคูร์สก์
ทหารยูเครนที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนตะวันตก ยอมรับว่าเป้าหมายหลักของการรุกรานคือยึดดินแดนบางส่วน ที่อาจถูกใช้ต่อรองกับรัสเซีย ในการเจรจาสันติภาพที่ท้ายที่สุดแล้วอาจมีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การโจมตีดูเหมือนจะก่อความอ่อนแอแก่สถานะของยูเครนเอง ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ เนื่องจากทหารรัสเซียเริ่มรุกคืบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่าการรุกรานแคว้นคูร์สก์ จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้รัสเซียระดมพลครั้งใหญ่มากขึ้น
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)